ตำรวจสาวท่องแหล่งประวัติศาสตร์ ศึกษาวิถีชีวิต

“แรงบันดาลใจมาจากคุณแม่ค่ะ ท่านบอกว่าอยากให้ลูกสาวได้รับราชการ ทำงานเพื่อประเทศชาติ และจะได้มีอาชีพที่มั่นคง เนื่องจากมัทเป็นลูกคนแรก มัทจึงอยากทำให้ท่านภาคภูมิใจและมัทก็อยากทำงานที่สามารถทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง” นี่เป็นคำพูดถึงที่มาที่ไปในการรับราชการตำรวจ ของ ผู้กองมัทรีย์-ร.ต.อ.หญิง สาวิตรี มั่นศักดิ์ แต่เพื่อนส่วนใหญ่ เรียก “มัท” ตำแหน่ง รอง สว.ฝอ.5บก.อก.ภ.6

เธออธิบายว่า นอกจากแรงบันดาลใจของการมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การรับราชการตำรวจยังมีความมั่นคง มีสวัสดิการที่สามารถดูแลครอบครัวของเราได้ ในขณะนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดสอบรับบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรี เข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน รุ่นที่ 2 พอดี ตัดสินใจลองสอบดู และก็สอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรก เข้าอบรบและบรรจุได้รับยศ สิบตำรวจตรีหญิง ในวันที่ 28 ก.ย. 2552  ดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่ นย.รพ.ตร. และเมื่ออายุราชการครบตามระเบียบ ก็เข้าสอบแข่งขันเพื่อเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร สอบได้ตั้งแต่ครั้งแรกเช่นกัน จากนั้นได้ย้ายกลับมาอยู่ที่ จ.พิษณุโลก ติดยศ ร.ต.ต.หญิง ดำรงตำแหน่ง รอง สว.ฝอ.5 บก.อก.ภ.6 ในปี 2555 จนถึงปัจจุบัน

“ในการสอบแต่ละครั้ง มีการแข่งขันที่สูงมาก แต่มัทก็ผ่านมาได้ นั่นไม่ได้หมายความว่า มัทเป็นคนเก่งฉลาดอะไรกว่าใครเลย มัทกลับเป็นคนที่มีการเรียนอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง มัทไม่เคยเรียนพิเศษ ไม่เคยมีติวเตอร์  มีเพียงเป้าหมายว่า จะต้องทำให้แม่ภูมิใจและจะต้องสอบให้ได้ในครั้งเดียว เนื่องจากเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือหลายๆรอบ แต่อาศัยความขยัน ความพยายามที่เรามี ใช้เวลาว่างจากการทำงานและวันหยุดที่มี ตั้งใจอ่านหนังสือทำความเข้าใจกับทุกประโยค และฝึกทำข้อสอบเก่าๆ ทำแบบนี้ตลอดเวลา 2 เดือน และในอาทิตย์สุดท้ายก่อนสอบ จะให้เวลากับการอยู่กับตัวเอง ตั้งใจอ่านและสรุปความเข้าใจในแบบของเราเองอย่างเป็นระบบ ให้สามารถพลิกแพลงได้เมื่อเจอคำถามที่ยากยิ่ง และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้คือ กำลังใจจากครอบครัวค่ะ” ผู้กองสาวคนขยันอธิบายขั้นบันไดความสำเร็จจากความตั้งใจมีมุมานะ

สำหรับผู้กองสาว แม้จะบอกเป็นคนเรียนในเกณฑ์ปานกลาง แต่หากดูโปรไฟล์การศึกษาแล้วก็ไม่ธรรมดา เธอเน้นว่าอาศัยความขยันหมั่นเพียรและอดทน นายตำรวจสาวคนเก่งจบระดับปริญญาตรี สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์  มหาวิทยาลัยนเรศวร ต่อด้วยเป็นมหาบัณฑิต ด้วยการคว้าปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

ได้ประกาศเกียรติคุณรับการคัดเลือกให้เป็นข้าราชการตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดีเยี่ยมตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจสมควรได้รับการยกย่องเชิญชูเกียรติเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีประจำปี พ.ศ. 2557 จาก พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ  ศรีวรขาน จเรตำรวจแห่งชาติปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น นอกจากนี้ ยังได้รับมอบเกียรติบัตรเป็นข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติงานดีเด่นด้านงานอำนวยการ ประจำเดือนมกราคม เมื่อวันที่ 30 ม.ค.58 จาก พล.ต.ต.ภาณุ  บุรณศิริ  ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 6 และได้รับประกาศนียบัตรเพื่อแสดงว่าได้สำเร็จการฝึกอบรมตามโครงการฝึกอบรมทบทวนชุดปฏิบัติการกองร้อยควบคุมฝูงชนหญิง ขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2556 จากตำรวจภูธรภาค 6

แน่นอนไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร ข้าราชการระดับไหน หรือใครจะประกอบอาชีพอะไร ย่อมมีงานอดิเรก สิ่งที่ชอบทำนอกเหนือจากหน้าที่หลักเสมอ เช่นเดียวกับผู้กองคนสวยที่บอกว่า หลังจากที่เรียนจบปริญญาโทแล้ว เวลาว่างก็มากขึ้น มักจะเข้าวัดทำบุญ หรือปฏิบัติธรรมบ้างในบางครั้ง และชอบท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งทางประวัติศาสตร์ และทางธรรมชาติเพื่อที่จะเรียนรู้วิถีชีวิตของคนแต่ละพื้นที่ แล้วนำมาปรับใช้กับการทำงาน ขณะเดียวกัน ก็มีงานอดิเรก หรือกิจกรรมยามว่างที่ชอบทำ คือ รับงานสกรีนภาพลงวัสดุต่างๆ เช่น เสื้อ หมวก แก้ว พวงกุญแจ โดยส่วนใหญ่จะรับออเดอร์จากลูกค้าออนไลน์ มีทั้งสกรีนเสื้อทีม เสื้อคู่รัก เสื้อครอบครัว เสื้องานบวช งานแต่ง แก้ว และหมวกต่างๆ

“ของเหล่านี้ทำให้รู้สึกสนุก มีความสุข ผ่อนคลาย แถมได้สมาธิไปในตัว สินค้าที่ทำรับประกันคุณภาพและราคาถูกมากๆ เพราะมัททำเองทุกขั้นตอน มีหน้าร้านขายเสื้อสกรีนอยู่ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ครอบครัวเป็นผู้ดูแลกิจการให้ค่ะ มัทยังขายสินค้าออนไลน์ เป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำหอม Troposphere นำเข้าน้ำหอมจากกูตูร์ฝรั่งเศสโดยตรง มีความหอมยาวนานจากสูตรลับเฉพาะที่ Troposphere คิดค้นและร่วมพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในเมืองไทย เป็นที่ชื่นชอบของนักช็อปออนไลน์ มี 8 กลิ่นให้เลือกสรร  หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เพจน้ำหอม Troposphere&งานสกรีน ทางไลน์ไอดี :ithinkido987 ได้เลยค่ะ” เธอเล่าพร้อมกับรอยยิ้ม

ทั้งนี้ผู้กองสาวคนขยัน บอกว่า ภาคภูมิใจมากกับอาชีพข้าราชการตำรวจ เพราะเป็นอาชีพที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีที่จะได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างเต็มความสามารถ รับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ได้ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ขจัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ในการปฏิบัติหน้าที่นั้นจะยึดถือปฏิบัติอันดับแรก คือ ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ต่ออาชีพ และเพื่อนร่วมงาน มีความอดทนตั้งใจทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการทำงาน แล้วเราก็จะมีความสุขกับงานที่ทำ ดังพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ใจความตอนหนึ่งว่า  “…เมื่อมีโอกาสและมีงานทำควรเต็มใจทำ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้หรือเงื่อนไขอันใด ไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง คนที่ทำงานได้จริงๆ นั้นไม่ว่าจะจับงานสิ่งใดย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจใส่ มีความขยันและความซื่อสัตย์สุจริตก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น…”

หากถามว่าเป็นตำรวจแล้วอยากทำงานส่วนไหนมากที่สุด ขอตอบว่า ยังอยากทำงานในฝ่ายอำนวยการอยู่เหมือนเดิม แม้เนื้องานจะไม่ได้บู๊เหมือนฝ่ายอื่นๆ แต่มองว่างานทุกงานมีความสำคัญเหมือนๆกัน จึงไม่สามารถขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ งานฝ่ายอำนวยการนั้นเป็นเหมือนหัวใจ เป็นฟันเฟืองสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้งานทุกหน่วยสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างมีทิศทางที่ดีและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในฝ่ายอำนวยการนั้นมีงานให้ได้เรียนรู้ได้ฝึกประสบการณ์อีกมากมาย ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเป็นผู้จัดรายการวิทยุช่วงตำรวจภูธรภาค 6 พบประชาชน และเป็นส่วนหนึ่งของกองร้อยควบคุมฝูงชนของตำรวจภูธรภาค 6 ได้ปฏิบัติภารกิจสำคัญๆหลายครั้ง  งานตรงนี้มีความชอบ ความถนัดและมีความสุขที่ได้ทำงานฝ่ายอำนวย จึงคิดว่าตนเองจะสามารถทำประโยชน์ให้กับหน่วยงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพต่อไป

ร.ต.อ.หญิง สาวิตรี ฝากด้วยว่า อยากให้ประชาชนทุกคนเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของตำรวจ มองถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่มีความเสี่ยงสูง มีความเสียสละทั้งชีวิตและเวลาส่วนตัว ทำงานแบบไม่มีวันหยุด ต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา เพื่อระงับทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชนตามหน้าทีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ให้ประชาชนปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อความสงบสุขของสังคมและประเทศชาติ อยากขอให้ประชาชนเข้าใจและมองถึงผลดีจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจมากกว่า เพื่อเป็นกำลังใจให้ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ส่วนน้องๆเยาวชนนั้น ก่อนอื่นต้องถามน้องๆก่อนว่ามีเป้าหมายในชีวิตอย่างไร เมื่อเรารู้เป้าหมายแล้วก็ต้องเลือกเครื่องมือที่จะพาไปสู่เป้าหมายนั้นๆ อาชีพทุกอาชีพล้วนมีความสำคัญไม่ต่างกัน สำหรับน้องๆที่มีเป้าหมายอยากจะเป็นตำรวจ ก็ขอให้พร้อมทั้งกำลังกายและกำลังใจ พร้อมที่จะเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เตรียมร่างกายให้พร้อม เตรียมอ่านหนังสือ ทำความเข้าใจกับเนื้อหาและฝึกทำแบบทดสอบบ่อยๆ เพียงเท่านี้เชื่อว่าน้องๆ ต้องได้เป็นตำรวจตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

RELATED ARTICLES