เพจบอกข่าวเล่าเรื่องเมืองนครปฐม
แชร์ภาพคลิปฉาวแสดงความ “ป่าเถื่อน” ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในเครื่องแบบว่อนโลกโซเชียล
ระบุ ตำรวจสามพรานทำอะไร ????
จากเหตุการณ์วัยรุ่น 3 คนหนีคู่อริที่ไล่ฟัน ขับรถมาเจอสายตรวจโรงพักสามพราน ดีใจเห็นตำรวจรีบเข้าไปขอความช่วยเหลือ
แต่ แต๊ แต่ ตำรวจให้ถอดเสื้อ นอนราบกับพื้น เจออาวุธปืนยึดไป
วัยรุ่น3คน ไม่มีขัดขืนต่อสู้ แต่คุณตำรวจ เตะที่หัว กระทืบ เหยียบที่หัว ใช้เข็มขัดฟาด เหมือนเขาทำอะไรผิด
แม้ทำผิดก็ดำเนินคดีตามกฎหมายไม่มีสิทธิไปทำร้ายเขาแบบนี้
น้องวัยรุ่น 3คนบอกว่า ตอนไปสอบที่โรงพัก โดนอีกจนกระอักเลือด โดยที่ไม่รู้สาเหตุ
โรงพักสามพรานงานเข้าแล้วจ้า กองบัญชาการตำรวจภูธรคภาค7 ท่านผู้บัญชาการทราบหรือยัง
ต่อมามีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ที่ 273/2565 ให้ ร.ต.อ. ไชยะพจน์ โคตรสำราญ รอง สารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรสามพราน ส.ต.ต.พนาดร ช่างเขียน ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกัน-ปราบปราม) สถานีตำรวจภูธรสามพราน ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
สั่ง ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2565
มี พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมเป็นผู้เซ็นคำสั่ง
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโลกไซเบอร์
แค่นี้ลงโทษสถานหนักแล้วหรือ
พล.ต.ต ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ต้องออกมาแถลงข่าวชี้แจง กรณีตำรวจสังกัดสถานีตำรวจภูธรสามพราน จังหวัดนครปฐม 2 นาย จับกุม กลุ่มวัยรุ่นที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาขอความช่วยเหลือว่า ถูกกลุ่มอริ ไล่ทำร้าย แต่เมื่อตรวจค้นตัวกลับเจออาวุธปืน ตำรวจทั้ง 2 นายจึง ทำร้ายร่างกายด้วยการเตะและกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ
เจ้าตัวยอมรับรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้ มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ในเรื่องดังกล่าว และมีคำสั่งย้ายให้นายตำรวจทั้ง 2 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม และจะมีการสอบสวนตำรวจทั้ง 2 นาย
หากพบว่า เข้าข่ายความผิดใดจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเป็นคดีอาญาต่อไป
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน จะต้องสอบปากคำผู้เสียหาย ในคดีนี้ด้วย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้ทราบข่าวจากทางสื่อ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยซักถามจากปากของผู้เสียหายโดยตรง เพราะเด็กที่ถูกจับกุมและถูกทำร้ายเป็นเยาวชน ต้องสอบแบบสหวิชาชีพเพื่อให้ได้ข้อมูลทั้ง 2 ฝ่ายมาประกอบกัน
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมอ้างด้วยว่า ในจุดที่ตำรวจจับกุม และทำร้าย กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 คน ปกติสถานที่ดังกล่าวจะมีการแข่งขันรถจักรยานยนต์ซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นประจำ
ในวันเกิดเหตุ มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมา ทำให้ตำรวจทั้ง 2 นายเข้าใจได้ว่า อาจเป็นกลุ่มเด็กแว้นที่นัดมารวมตัวขับขี่รถจักรยานยนต์ซิ่ง ประกอบกับเมื่อค้นตัวก็พบอาวุธปืน แต่ยุทธวิธีและวิธีการ ในการจับกุมเกินกว่าเหตุไปมาก
ด้าน พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสามพรานในฐานผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตำรวจทั้ง 2 นายออกตัว รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่า ดูแลลูกน้องไม่ดี ทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวเด็กและภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พิสูจน์บทเรียนลุแก่อำนาจไม่สนโลกที่เปลี่ยนไปแล้วใครจะรับผิดชอบ