มีเอกสารจาก พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสนเทศ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอชี้แจงบทความ “เสียงครวญเรื่องไร้สาระ”
แยกประเด็นตามข้อข้องใจที่มีพนักงานสอบสวนนครบาลระบายความอึดอัด
ตั้งแต่ กรณีการใช้เอกสารเดินบัญชีในรูปแบบไฟล์ ระบุ การใช้เอกสารรายการเดินบัญชีที่ได้จากธนาคารในรูปแบบไฟล์สามารถนำไปใช้ประกอบสำนวนการสอบสวนได้ แต่ต้องสอบปากคำเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อยืนบีนประกอบสำนวนการสอบสวนด้วย
ข้อดีของการใช้เอกสารดังกล่าวในรูปแบบไฟล์จะสามารรถนำไปใช้ในการสืบสวนสอบสวนขยายผล ทำฐานข้อมูลบัญชีของคนร้ายได้สะดวกกว่าในรูปแบบกระดาษ
“คนร้ายมักเป็นกลุ่มองค์กรที่มีการใช้บัญชีหลากหลายสลับซับซ้อนและอาจเป็นขั้นตอนที่พนักงานสอบสวนส่วนใหญ่อาจไม่มีความชำนาญมากนัก แต่ยุคสมัยนี้ตำรวจต้องเปลี่ยนแปลง ต้องพัฒนาเพื่อตามคนร้ายให้ทัน ในระยะแรกอาจไม่เชี่ยวชาญ แต่ต้องมีการพัฒนาตัวเองในทันยุคสมัย”
กรณีตารางสถานะ (ย่อย) ขอทำความเข้าใจว่า ระบบรับแจ้งความออนไลน์เป็นระบบใหม่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันพัฒนา การใช้ตารางสถานะย่อยก็เพื่อให้ผู้กำกับในระดับสถานีตำรวจเข้าใจสถานภาพทางคดีของโรงพักตัวเองอย่างจริงจัง เป็นไปตามความมุ่งหมายของผู้บังคับบัญชาที่จะให้บริการประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและรวดเร็ว
สถานะทางคดีในระบบกับตารางสถานะที่ต้องมีการรายงานผู้บังคับบัญชา มีบางส่วนต้องตรงกันและบางส่วนไม่ตรงกัน อยู่ระหว่างการสำรวจว่า เป็นปัญหาที่ตัวเจ้าหน้าที่ผู้ใช้งาน หรือเป็นปัญหาของระบบรับแจ้ง เสมือนเป็นการทดสอบระบบการรับแจ้งความออนไลน์ร่วมกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายจะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไข ปรับปรุงระบบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานได้สูงสุด
ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการใช้งานระบบ CRIMES ที่สามารถดูรูปแบบการรายงานทางคดีได้ แต่ระบบ CRIMES เป็นระบบปิด ใช้เฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้น ส่วนระบบการรับแจ้งความออนไลน์สามารถให้ประชาชนเข้าถึงและติดตามสถานภาพทางคดีของตัวเองได้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้เสียหาย และยังเป็นการรายงานผลความคืบหน้าทางคดีให้แก่ผู้เสียหายอีกทางหนึ่งด้วย
ตารางการรายงานสถานะคดีของกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่แอดมินศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสมารถดูรายงานจากระบบได้โดยตรง ผู้พัฒนาระบบกำลังปรับปรุงระบบรับแจ้งความให้สามารถรายงานข้อมูลในส่วนนี้ได้
“ส่วนการประชุมที่จัดขึ้นทุกสัปดาห์นั้น ผู้บังคับบัญชาตระหนักดีว่า เจ้าหน้าที่ทุกท่านมีภาระหน้าที่และปริมาณงานสูงอยู่แล้ว โดยเฉพาะกองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่เนื่องจากสถานภาพทางคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สูงมาก เกรงว่า หากไม่เข้ามากำกับดูแลและรับทราบปัญหาการทำงานของระบบการรับแจ้งความออนไลน์ที่ถือว่าเป็นระบบใหม่นี้อย่างทันท่วงที อาจทำให้เป็นปัญหาสะสมไปในอนาคต และอาจเกิดความเสียหายต่อประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน”
ตามที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ข้อคิดไว้แล้วว่า เราต้องเปลี่ยน Mind set เพื่อให้ทันกับยุคสมัยและการเปลี่ยนแปลง
ขณะที่ประเด็น การประสานกับหน่วยอื่น ปัจจุบันรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมให้ความสำคัญกับคดีออนไลน์ที่สร้างความไม่ปลอดภัยแก่ประชาชน ผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการประสานงานกระทรวง ธนาคาร สถาบันการเงินต่าง ๆ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ตในหลายมิติคราว ๆ ดังนี้
มิติด้านกฎหมาย มีแนวคิดที่จะแก้กฎหมายเพื่อควบคุมการใช้บัญชีของผู้อื่น (บัญชีม้า) ให้เป็นความผิด แม้ยังไม่ได้มีการหลอกเงิน หรือโอนเงิน นายชัยวุฒิ ธนาคมนานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้แถลงว่าจะมีการเสนอแก้กฎหมาย อยู่ระหว่างดำเนินการ
มิติด้านสอบสวน สืบสวน ปราบปราม มีการทำบันทึกข้อตกลงกับธนาคารให้สามารถอายัดบัญชีคนร้ายได้อย่างรวดเร็วเพื่อบรรเทาความเสียหายให้ได้มากที่สุด มีการเจรจากับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตหาวิธีป้องกันปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพ มีการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศเพื่อนบ้านตรวจสอบและจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้สถานที่นอกราชอาณาจักรในการก่ออาชญากรรมในประเทศไทย
มิติด้านการป้องกัน มีการเจรจาประสานงานกับเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ส่งข้อความแจ้งเตือนก่อนการโอนเงินในแอปพลิเคชันธนาคารต่าง ๆ ให้ประชาชนระมัดระวังการถูกหลอก มีการเจรจากับเจ้าหน้าที่ธนาคารจำกัดวงเงินบัญชีเปิดใหม่ สามารถโอนเงินได้จำกัด (อยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าหน้าที่ธนาคาร) เพื่อป้องกันไม่ให้นำบัญชีม้ามาใช้ในการกระทำผิด ตลอดจนสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปในช่องทางต่างๆ เพื่อเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง รวมถึงให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับวิธีการต่าง ๆ ที่คนร้ายนำมาใช้ เพื่อให้ประชาชนมี “ภูมิคุ้มกัน” ไม่ถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ
ทั้งนี้เชื่อว่า พนักงานสอบสวนทุกท่าน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะร่วมแรงร่วมใจกันทำงานที่เกี่ยวข้องกับระบบการรับแจ้งความออนไลน์อย่างเต็มความสามารถ เพื่อจะได้ทราบถึงปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ ของระบบการรับแจ้งความออนไลน์และร่วมพัฒนาระบบการรับแจ้งความออนไลน์ไปด้วยกัน
เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
รองรับความเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต
จึงเรียนมาเพื่อขอชี้แจงทำควาเข้าใจเกี่ยวกับบทความที่อ้างถึงและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะช่วยให้ความร่วมมือในการสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจและตระหนักถึง “ภัยจากมิจฉาชีพ” ที่มาในรูปแบบการหลอกลวงในด้านต่าง ๆ
