เอาพ่อหนูกลับคืนมา

 

เงินบำเหน็จความดีความชอบจากการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งอาจไม่มีความหมาย

ด.ต.อนันต์ อ้อสุวรรณ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ต้องพลีชีพในวัย 48 ปี ขณะสวมเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หลังจากไประงับเหตุวัยรุ่นปาระเบิดและยกพวกยิงใส่กันภายในซอยเอราวัณ 12   ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

กระสุนปืนพุ่งตรงเข้าท้ายทอยทะลุหน้าผากนายดาบผู้ถึงคราวเคราะห์ร่วงลงคาที่

กองสวัสดิการสำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลสิทธิประโยชน์เบื้องต้น ปูนบำเหน็จให้ 7 ขั้นเป็น พ.ต.ท. รวมทั้งเงินช่วยเหลือรวมแล้วประมาณ 2 ล้านบาท

ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูล “อ้อสุวรรณ” ต้องการ เพราะมันต้องแลกด้วยชีวิตของ “หัวหน้าครอบครัว”

ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีวัยรุ่นเข้ามาปาระเบิดปิงปอง และใช้ปืนยิงข่มขู่ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ  ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจะเข้ามา กลุ่มวัยรุ่นได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปแล้ว

ด.ต.อนันต์ อ้อมสุวรรณ เป็นตำรวจประจำป้อมที่รู้จักคุ้นเคยกับชาวบ้านถือโอกาสยืนพูดคุยสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่ดูเหมือนว่า กลุ่มวัยรุ่นยังไม่เลิกรา สาดกระสุนจากฝั่งตรงข้ามใส่ท่ามกลางความมืดจนถูก ด.ต.อนันต์ล้มฟุบเสียชีวิต

 เขาตายเพื่อหน้าที่รักษาความสงบสุขของบ้านเมือง

“ระยะหลังเหมือนมีลางสังหรณ์ส่วนตัวว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน” นางสุภาพร ทรัพย์สนอง ภรรยาวัย 44 ปี เดินทางไปรับศพสามีด้วยใบหน้าเศร้าซึม นึกไม่ถึงต้องสูญเสียหัวหน้าครอบครัวอย่างกะทันหัน ทั้งที่เคยเตือนให้ระวังตัว

ขณะที่ลูกสาวเพียงคนเดียวอายุ 11ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เอาแต่ร้องไห้ตลอดเวลา

“เอาพ่อหนูกลับคืนมา” เด็กน้อยผู้กำพร้าเพ้อพร่ำรำพันด้วยความอาลัยรักที่ไม่มีโอกาสได้ร่ำลาน้ำตาอาบแก้มต่อหน้าร่างไร้วิญญาณของพ่อบังเกิดเกล้า

ตลอดระยะเวลารับราชการมากว่า 20 ปี เขาดำรงตนตามแบบฉบับตำรวจที่ดี ไม่เอาเปรียบใคร ไม่สร้างความเดือดร้อน หรือรังแกใคร

“เวลาเห็นคนอื่นเดือดร้อน หากช่วยเหลือได้จะช่วยเหลือตลอด และไม่เคยบอกใครว่าตัวเองเป็นตำรวจ” ภรรยาม่ายระบายความรู้สึก

“สถาบันหลัก คือ ครอบครัวที่จะต้องช่วยกันดูแลกันจะได้ไม่เป็นปัญหาสังคม” เธอฝากถึงผู้ก่อเหตุ

มือปืนวัยรุ่นอายุแค่ 17 ปี จากตำบลพะยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ริทำตัวเป็นนักเลงอันธพาลข้ามถิ่นมาป่วนคู่อริถูกลากคอทันควัน ให้การน้ำตานองอ้างวนรถจักรยานยนต์วนกลับมาอีกรอบ ต้องการยิงเบี่ยงลงเพียงนัดเดียว แต่ปืนดีดขึ้นกระสุนออกไป 3 นัด เนื่องจากเป็นระบบออโตเมติก ไม่คิดจะถูกดาบตำรวจ

น้ำตาของโจ๋วัย 17 ปีเทียบกับน้ำตาของเด็กหญิงวัย 11ขวบต่างอารมณ์กันอย่างสิ้นเชิง