ตั๊น-กมธ.ตำรวจจับมือผู้ช่วยต่อศักดิ์ติวเข้มตำรวจภาค 8

 

ที่โรงแรมบรรจงบุรี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายสมชาติ ประดิษฐพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.เอกกมนต์ พรชูเกียรติ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ร่วมเปิดงานสัมมนา เรื่อง “การเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ”

การสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง “นโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” มีเจ้าหน้าที่สืบสวน พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฏิบัติงานปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และงานพิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 เข้าร่วมงานจำนวน 400 คน

น.ส จิตภัสร์กล่าวบรรยายพิเศษตอนหนึ่งว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสถานการณ์ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในประเทศไทย มีการกระทำเป็นขบวนการ หรือองค์กร ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้ประชาชนต้องใช้วิถีชีวิตแบบใหม่ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะรูปแบบและวิธีการสื่อสาร รวมถึงการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์เพิ่มขึ้น เป็นช่องทางให้อาชญากรข้ามชาติใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดจำนวนมาก และอาชญากรรมข้ามชาติในปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบและลักษณะของการกระทำความผิดที่ซับซ้อนมากขึ้น ก่อให้เกิดความเสียหายที่มีมูลค่าสูงและเพิ่มอย่างรวดเร็ว

น.ส.จิตภัสร์ระบุว่า คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ตระหนักถึงความสำคัญในการสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ จึงได้จัดงานสัมมนาในวันนี้ขึ้น ต้องขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ความอนุเคราะห์ส่งบุคลากรมาเป็นวิทยากรให้ความรู้ รวมถึงให้นโยบายเพื่อให้ผู้ร่วมสัมมนานำไปปฏิบัติและขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ เชื่อมั่นว่าจะได้รับความรู้อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศและการช่วยเหลือ อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนต่อไป

RELATED ARTICLES