งานเลี้ยงสังสรรค์สื่อมวลชนประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.ต.ยิ่งยง เทพจำนงค์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรรมทางเทคโนโลยี ในฐานะทีมงานโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นัดขอบคุณสื่อ มี พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาร่วมแจมด้วย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้โอกาสขึ้นเวทีระบายความในใจต่อสื่อมวลชนตลอดการดำรงตำแหน่ง 2 ปีที่ผ่านมากระทั่งนับถอยหลังอำลาชีวิตราชการยอมรับ ว่า เวลาผ่านไปเร็วน้อง ๆหลายคนเห็นกันมานานเกิน 10 ปี เห็นความเปลี่ยนแปลงกรมตำรวจก่อนเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างไร สื่อเป็นพี่น้องเป็นกระจกเงา คอยบอกเราหน้าตาเป็นอย่างไร วันนี้สภาพเป็นอย่างไร หลายๆอย่างสู้ให้ตำรวจถึงแม้มันไม่ชอบไม่ถูกต้องก็ตาม
“ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมา” พล.ต.อ.สุวัฒน์จริงจังและบอกว่า รับราชการมา 39 ปี 7 เดือน 17 วัน งานที่ผ่านมา 2 ปี ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้จับผู้ร้าย แต่ใช้คนทำให้ พยายามใช้ทุกคน บางคนให้ทำ 100 ทำให้ 300 บางคนไม่ให้ทำอะไรก็ติดลบ เป็นเรื่องของเราบริหารจัดการของเรา
“ บางคนบอกว่านโยบายของเราทำไม่ทัน ถ้าเราให้น้อย เขาจะทำหรือไม่ บางคนบอก 20 ได้ 10 ถ้าบอก 200 ได้ 100 บางคนบอก 100 ทำ 100 ผมถือคติว่า คนที่ไม่ค่อยรับผิดชอบทำงานมากกว่าคนอื่น ถามว่าเรื่องนี้นี้คิดเองหรือเปล่าไม่ใช่ มีอาจารย์ทางบริหารฝรั่งเป็นคนพูดว่า เวลาคนเราอยากให้มีความรับผิดชอบ ไม่รับผิดชอบก็ปล่อยฟรี ให้ผู้ช่วยท่านนั้นท่านรองท่านนี้ ปล่อยให้ทำ หากมีปัญหาค่อยลงไปแก้ สมมุติให้คน 5 คนไปทำงาน บางคนมีปัญหา บางคนมีผลสำเร็จมีปัญหาผิดพลาด แต่ต้องเป็นความผิดพลาดที่เรารับได้ ขอบคุณข้าราชการตำรวจ 200,000 คน ตลอด 2 ปีที่อยู่ด้วยกัน”
เจ้าสำนักปทุมวันย้ำว่า อนาคตของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องปรับตัวสำหรับโลกอนาคต ตำรวจต้องปรับตัวให้เร็วเพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลง ต้องฝากน้อง ๆ สื่อ ช่วยเป็นกระจกส่องต่อไป กระตุ้นเตือน ติง วิจารณ์ ตรึงแข้งขาเป็นไม้คำยัน ไม่มีใครเพอร์เฟค อยากให้ภาพรวมสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปแบบไม่เคยพูดที่ไหน
“คือ ไม่ให้ให้ใครทะเลาะกัน ถ้ามีก็พยายามควบคุม อาจจะทำได้ไม่ดีนัก แต่เป็นความตั้งใจ ไม่อยากให้มีใครเป็นมองว่า คนนั้นคนนี้เป็นพวกใคร ต้องการให้ทุกคนไปด้วยกัน คนอ่อนแอคนแข็งแรงต้องไปด้วยกัน อ่อนแอไม่ไหวจริง ๆ ก็ฉีดยาให้ตาย”
พล.ต.อ.สุวัฒน์ยืนยันว่า หนังจบแล้วให้ไปเล่นต่อคงไม่ สอนหนังสือคงไม่ คงให้เป็นคนรับผิดชอบดูแลต่อไป จากนี้จะถอดเสื้อผ้าคืนหลวง กลับไปเป็นคนดูหนังดูคนอื่นเล่น พวกเราจะว่า รู้ตำรวจไม่ได้มีอะไร
ตำรวจทำหน้าที่ไม่ได้ดีก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็ต้องทำต่อไป
