ปฏิบัติการบุกจับนักธุรกิจหมื่นล้านชาวมาเลเซียเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565
ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกำลังตำรวจสถานีตำรวจภูธรสะเดา จังหวัดสงขลา และตรวจคนเข้าเมืองสงขลา นำ “หมายแดง” ขององค์กรตำรวจสากล เข้าตรวจค้นอาณาจักรใหญ่กลางอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
รวบ ผู้ต้องหาชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน อายุ 56 ปี นักธุรกิจคนดังในความผิด ข้อหาฟอกเงิน ไปเพิกถอนวีซ่าการพำนักอยู่ในประเทศไทย
เป็นผู้ต้องหาที่ทางการจีน “หมายหัว” และประสานทางการไทยติดตามตัว
หลังจากเข้ามาปักหลักอยู่เมืองไทยทำธุรกิจสถานบันเทิง และอสังหาริมทรัพย์มูลค่านับหมื่นล้านในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษบ้านด่านนอก ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
ก่อนหน้าเคยตกเป็นข่าวเอี่ยวขบวนการค้ายานรกข้ามชาติ แต่พยานหลักฐานสาวไปไม่ถึง
จนทางการจีนประสานอินเตอร์โพลออก “หมายแดง” ระบุกระทำความผิดในประเทศจีนหลอกระดมทุนเครือข่าย “แชร์ลูกโซ่” มีผู้เสียหายชาวจีนหลงเชื่อสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกจำนวนมาก
มูลค่าความเสียหายในจีนจากธุรกิจแบบ “แชร์ลูกโซ่” ที่หลอกลวงให้คนจีนกว่าสิบล้านคน ในหลายมณฑล นำเงินมาลงทุนแล้วเชิด มีตัวเลขสูงถึงสามแสนล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 1.5 ล้านล้านบาท หรือครึ่งหนึ่งของงบประมาณแผ่นดิน
ขณะเดียวกันยังถูกหมายจับของประเทศมาเลเซียในลักษณะเดียวกัน ก่อนหลบมาลงทุนทำธุรกิจมากมายในประเทศไทย
ความเคลื่อนไหวของนักธุรกิจคนดังรายนี้ อยู่ในสายตาของ หน่วยข่าวกรองประเทศจีน มาตลอด ถึงประสานส่งเรื่องให้ทางการไทยตามจับ
แผนปฏิบัติการรวบตัวครั้งนี้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่ววงการ เพราะฉากหลังของนักธุรกิจชาวมาเลเซียรายนี้ มี นักการเมืองอิทธิพลแดนใต้ คอยพะเน้าพะนอเอาใจ เนื่องจากเห็นแก่เม็ดเงินลงทุน “นับหมื่นล้าน”
ขั้นตอนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตาม “หมายแดง” ของตำรวจสากลเพื่อไปสำเร็จโทษใน “แดนมังกร” ถึงกำลังสะดุดขลุกขลัก
เริ่มต้นเกิดขบวนการ วิ่งเต้นครั้งมโหฬาร ไม่ให้ส่งไปเมืองจีนที่จะโดนอัตราโทษหนักถึงขั้น “ประหารชีวิต”
กลุ่มที่มีผลประโยชน์เอี่ยวกับนักธุรกิจสองสัญชาติรายนี้ต้องการให้ดำเนินคดีอะไรก็ได้ในไทย หรืออย่างแย่ที่สุดให้ทางการไทยส่งไปให้มาเลเซียดำเนินคดีแทน
อย่างน้อยจะรับโทษไม่หนัก และมีโอกาส “หลุดคดี” กลับมาเสวยสุขในไทยอย่างเดิม
มีเงินพร้อมเพย์จ่ายค่าวิ่งเต้นถึง 700 -800 ล้านบาท
นักการเมืองใหญ่ที่เคยใช้เม็ดเงินฉ้อโกงมาจากจีนและอีกหลายประเทไปใช้ทำงานการเมืองใต้ดินและบนดินต่อเนื่องมาหลายปีกำลังดิ้นเอาเก้าอี้รัฐมนตรี ถึงพยายามต่อสายหา “ผู้มีอำนาจ”เพื่อให้ช่วยพลิกกระดานเกม “ส่งผู้ร้ายข้ามแดน”
ไม่นับหน่วยงานความมั่นคงบางแห่งนำเสนอความเห็นให้ส่งตัวไปมาเลเซียอ้างว่า เพื่อกระชับความสัมพันธ์แนวชายแดนให้แน่นแฟ้น
ลืมมองว่า ถ้าทางการจีนรู้ถึง “ฉากหลัง” จะอาละวาดขนาดไหน
ต้องคอยดูกันยาวๆว่า ก้อนเงิน 700-800 ล้านจะเข้าปากใครบ้าง