เป็นอีกอดีตนายพลตำรวจคนดังที่ตัดสินใจสมัครเข้าชิงตำแหน่งกรรมการข้าราชการตำรวจ
พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ เปิดภาพถ่ายเก่าย้อนอดีตที่เห็นตัวเองตั้งแต่เป็นผู้หมวดในสถานีตำรวจนครบาลและหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 191 อาจารย์โรงเรียนตำรวจ สารวัตรและรองผู้กำกับการ กองวิจัย รองผู้กำกับการตำรวจท่องเที่ยว รองผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร
ขึ้นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว รองผู้บัญชาการตำรวจภธรภาค 4 และรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ก่อนได้รับความไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ดูแลชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก โยกเป็นผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ แล้วกลับมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 ดูแลริมฝั่งทะเลภาคใต้ตอนบน
เลื่อนเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติที่ต้องดูแลความประพฤติตำรวจทุกคนทั่วประเทศรวมผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย
แม้เกษียณอายุราชการ เจ้าตัวยังช่วยเป็นคณะปฏิรูปตำรวจ อนุกรรมการข้าราชการตำรวจ ผู้ทรงคุณวุฒิในสมาคมพนักงานสอบสวน
“เลือดตำรวจยังเข้มข้นอยู่ครับ” พล.ต.อ.ปัญญาบอก
เขาจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็น สามพรานรุ่น 32 ได้ที่ 1 รับทุนรัฐบาลไปเรียนจนจบปริญญาเอกจากสหรัฐอเมริกา
“เป็นหนี้บุญคุณแผ่นดินไทยใหญ่หลวง จึงรักงานตำรวจทุกประเภทและผ่านงานทั้งบู๊บุ๋น ตั้งแต่สืบสวน สอบสวน ป้องกัน ปราบปราม มวลชนชุมชน อาจารย์ บริหาร พิสูจน์หลักฐาน คนร้ายข้ามชาติ คดีใหญ่ซับซ้อนที่ประชาชนสนใจ”
กับการปฏิรูปกฎหมายและองค์กร์กรตำรวจ เขาผ่านมาหมด แบบราบรื่นหรือต้องต่อสู้อย่างสุดกำลัง
เคยรู้รสชาติของการถูกย้ายเตะโด่ง
แต่อยากสู้เพื่อตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ช่วยประชาชนที่ถูกข่มเหงรังแก
“ที่ผ่านมา เคยสู้กับระบบแต่งตั้งโยกย้าย” พล.ต.อ.ปัญญาว่า “เคยทำและจะทำต่อไป ให้การบริหารงานตำรวจได้คนดี คนเก่ง คนกล้าและคนมีความสุขให้ได้ดิบได้ดีในวงการตำรวจครับ”
เมื่อได้เช่นนั้นเชื่อว่า ตำรวจดีๆจะทำสิ่งดี ๆ ให้ประชาชนคนไทยมีความสุข
ตำรวจเก่าขอร่วมสร้างตำรวจดี ๆ ครับ