ตามล็อกแก๊งหมวกกันน็อกตระเวนลัก จยย.ทั่วกรุง

 

 

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปรามแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ตระเวนลักของชาวบ้านที่จอดรถอยู่บริเวณที่พักอาศัยและแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างหนักเป็นการสร้างความเดือนร้อนและกระทบการดำรงชีวิตของประชาชนทั่วไปอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง  ชุดลาดตระเวนออนไลน์กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล IDMB รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากภาคประชาชนในพื้นที่ย่านพหลโยธินและย่านบางเขนว่าในห้วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 จนถึงปัจจุบัน พบมิจฉาชีพโจรกรรมรถจักรยานยนต์สร้างความหวาดวิตกกังวลแก่เจ้าของและผู้ครอบครองรถจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมาย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล สั่งการให้ชุดลาดตระเวนออนไลน์ ประกอบด้วย พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1  กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล และด.ต.อุทัย กิ่งแก้ว ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ติดตามพฤติกรรรมเบาะแสและแผนประทุษกรรมของกลุ่มคนร้ายพบเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 ราย ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนออกลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ดังกล่าว มีตำหนิพิเศษมักจะใส่หมวกกันน็อกสีเขียวและสีแดงออกตระเวนลักทรัพย์

นำไปสู่การจับกุมนายเจษฏาพร หรือบอล ไพรเวหา อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลคูคต อำภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี นายธรรมนูญ หรือแบงค์ เลิศชัย อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ตำลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานีและนายพจน์ รุ่งแสง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 8 ตำบลธงชัยเหนือ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ได้ที่ห้องพักเลขที่ 306 , 309 บ้านเลขที่ 29/44 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ยึดของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน รถจักรยานยนต์ที่ลักมาจำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 6 คัน จากการตรวจสอบพบว่าได้แจ้งหายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  เสื้อผ้า หมวกกันน็อก และอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุรวมทั้งสิ้นกว่า 25 รายการ

สอบสวนรับว่า ร่วมกันก่อเหตุตระเวนลักรถจักยานยนต์จอดในพื้นที่เปลี่ยว ปลอดคน และตามบ้านพักในพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร อาทิ เขตสายไหม คันนายาว พหลโยธิน และบางเขน ลามไปถึงพื้นที่อำเภอคูคต  อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี รวมเป็นจำนวนกว่า 14 คัน  ก่อนออกก่อเหตุจะสวมหมวกกันน็กคสีเขียว และสีแดงน็อกสีแดงเสริมความโชคดี ทำให้รอดพ้นจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาตลอด  นายเจษฎาพรกับนายธรรมนูญจะมีการแบ่งหน้าที่กันทำ คนแรกทำหน้าที่คนขับรถตระเวนหาเหยื่อและรถ ให้อีกคนต่อสายตรงแล้วขี่จักยานยนต์มาซุกซ่อนและขายต่อให้ลูกค้าประจำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีนายพจน์เป็นคนรับซื้อคันละ 10,000 – 17,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถ สุดท้ายดวงโจรตกถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ รวมถึงนายพจน์คนรับของโจรที่เตรียมนำรถของกลางขึ้นรถบรรทุกไปส่งประเทศเพื่อนบาน

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลกล่าวว่า จากการขยายผลตอนนี้พบพยานหลักฐานสำคัญหลายรายการสามารถดำเนินคดีทั้งขบวนการจนถึงที่สุด พื่อตัดวงจรขบวนการส่งรถออกนอกประเทศ จากข้อมูลที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลได้รวบรวมจากการก่อเหตุลักษณะนี้จะพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุจะมีการคัดเลือกรถตลาดที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป เพราะขายได้ราคาและลักได้ง่าย นำขายต่อให้กับกลุ่มรับซื้อ ก่อนขนส่งออกนอกประเทศทางช่องทางธรรมชาติ กระบวนการทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 วัน ขอแนะนำประชาชนหากเป็นไปได้ให้จอดรถในที่ปลอดภัย และควรเพิ่มมาตรการป้องกันเช่น ล็อกคอรถ การใช้กุญแจล็อกดิสเบรก หรืออาจเป็นอุปกรณ์ล็อกล้อ เป็นต้น และขอฝากว่าหากพบเบาะแสของกลุ่มมิจฉาชีพลักษณะนี้ สามารถแจ้งเข้ามาที่เพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะไม่เป็นคดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

RELATED ARTICLES