“จำไว้ว่า คนอื่นอาจจะแต่งตั้งให้เราไปอยู่ที่โน่นที่นี่ได้ แต่จะมาบังคับเราให้ทำตัวอย่างโน้นอย่างนี้ไม่ได้ เราสามารถเป็นตำรวจอย่างที่เราอยากจะเป็นได้”
แม้ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เขาให้เป็น
วลีอมตะของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติใช้ปลอบประโลมหัวใจลูกน้องเสมอเมื่อถึง “ฤดูกาลแห่งชีวิต”
เต็มไปด้วยอารมณ์ผิดหวัง สมหวังคละเคล้ากันไปทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งโยกย้าย
“ไม่ว่าจะมีตำแหน่งดีแค่ไหน ไม่ว่าจะตำแหน่งเลวแค่ไหน มันก็ไม่มีตำแหน่งไหนอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ถึงวันหนึ่งทุกคนก็ต้องลุกจากไป เพราะฉะนั้นไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็ฝากเพื่อนพี่น้องว่า ขอให้ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ฝากไว้
เหมือนนายตำรวจระดับผู้กำกับการคนหนึ่งเขียนบทความว่าเรื่องราว “ฤดูกาลแห่งชีวิต” ที่ขออนุญาตนำมาถ่ายทอดส่งต่อ
เขาว่าถึง ร่องรอยบนเส้นทางการรับราชการ บ่งบอกว่า คุณผ่านอะไรมาบ้าง แต่หาใช่บทสรุปว่า คุณสำเร็จ หรือล้มเหลว
เพราะชีวิตคนก็ไม่ต่างจากฤดูกาลตามธรรมชาติ มีทั้งความชุ่มชื่นฉ่ำใจในฤดูฝน เหน็บหนาวเย็นยะเยือกในฤดูหนาว หรือแห้งแล้งกันดารดั่งฤดูแล้ง
บางคนมีฤดูฝนให้ได้สัมผัสความชุ่มชื่นฉ่ำใจบ้าง
ขณะที่หลายคนต้องเผชิญ “ฤดูแล้งแห่งชีวิต” ที่แสนยาวนานและยากลำบาก
หากแต่อิทธิพลของความแห้งแล้งนั้นเอง กลับสร้างความแข็งแกร่งและทรหดแก่จิตวิญญาณของเขาเหล่านั้น
“เพราะบนเส้นทางแห่งความแห้งแล้งกันดาร คุณจะได้เห็นน้ำจิตน้ำใจ และมิตรภาพของเพื่อนร่วมทางที่คอยประคับประคองช่วยเหลือคุณ”
เรียนรู้ที่จะรู้จักแบ่งปันเห็นอกเห็นใจกัน
“หรือมองเห็นแม้กระทั่งความโหดร้ายเห็นแก่ตัวของใครบางคนที่ผ่านเข้ามาในฤดูแล้งแห่งชีวิตคุณ”
แต่ก็ใช่ว่าโลกนี้จะมีเพียงแค่ฤดูแล้ง
เพราะชีวิตมนุษย์บนโลก ย่อมเคยได้สัมผัสกับทุกข์สุขจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล
หากสำคัญเพียงแต่ “บนเส้นทางในฤดูกาลแห่งชีวิต” คุณได้ประทับร่องรอยแห่งมิตรภาพ หรือ “คำสาปแช่ง”