“ถ้าเราไม่ใช่นักข่าวไทยรัฐ เราจะไปรู้จักคนนั้นคนนี้ได้หรือ”

 

ดีตคนข่าวหนังสือพิมพ์อาวุโสสังกัดไทยรัฐประจำจังหวัดอุบลราชธานี

วีนัส เอี่ยมสะอาด สวมวิญญาณความเป็นครูดูความเคลื่อนไหวสถานการณ์ข่าวสารในพื้นที่จนเป็นที่รู้จักคุ้นเคยในหมู่ข้าราชการระดับสูง

เธอเป็นชาวอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เรียนจบวิทยาลัยครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ด้วยความที่พ่อและแม่รับราชการครู อยากให้ลูกสาวเจริญรอยตาม แม้ไม่ชอบ แต่ยากปฏิเสธ เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงสุด พ่อแม่ต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกถึง 6 คน จำเป็นต้องแบ่งเบาภาระพ่อแม่

แม้ตอนแรกตอนอยู่มัธยมปีที่ 2 โรงเรียนปากท่อวิทยาคม หนีออกจากบ้านมาหลบอยู่กับป้าที่ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รับจ้างทำงานสารพัด เนื่องจากพ่อแม่ไม่สนับสนุกให้เรียน เลือกให้อยู่บ้าน หนีไปรับจ้างตัดอ้อยบ้าง ถางยาง หาเงินไปซื้อหนังสือเรียนเอง รับจ้างซักผ้าเดือนละ 50 บาท หาบน้ำจนบ่าด้าน แต่ต้องอดทน เพราะอยากเรียนหนังสือ ไม่อยากเป็นชาวนาชาวไร่

กลับมาเรียนต่อวิทยาลัยครูธนบุรีแล้วไปต่อวิทยาลับครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ พี่สะใภ้อยู่อุบลราชธานีแนะนำให้ไปสอบบรรจุครูที่นั่น เจอคำถามแบบท้องถิ่นตอบแทบไม่ได้ แต่สอบติด ชีวิตมันเหมือนว่า ต้องมาอยู่ที่นี่ ตอนนั่งรถทัวร์มาสอบ ยังคิดเลยว่า จะอยู่ได้ไหม  สภาพอีสานมันแห้งแล้ง ไม่มีอะไรเลย ยิ่งใจไม่ชอบอาชีพครูอยู่แล้ว ไม่มีความใฝ่ฝัน

แรงบันดาลใจของวีนัสต้องการอยากเป็นนักข่าว เพราะเห็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐพานักข่าวไปเที่ยวต่างประเทศประจำเวลาที่ผลงาน ดั้นด้นไปขอสมัครเป็นนักข่าวที่กรุงเทพมหานคร ดุ่ม ๆ เข้าไป ปรากฏว่า หัวหน้าไม่รับ เพราะไม่มีประสบการณ์ คิดว่า ไม่รับไม่เป็นไร ขออนุญาตลงส่งข่าวก่อน หากคิดว่าทำได้ ช่วยพิจารณาด้วย ลองทำอยู่ 7 เดือน หนังสือพิมพ์ไทยรัฐรับเธอเข้าทำงานไปโดยปริยาย

วีนัสเล่าว่า เรียนรู้ด้านการเขียนข่าวสมัยนั้นส่งทางโทรศัพท์ อาศัยที่เราเป็นคนชอบอ่านและดูลีลาการเขียน  ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ วิธีการเข้าไปหาข่าว สมัยก่อนยากมากต้องไปเอง ต้องสืบเสาะเอง เรียนรู้เอา สร้างแหล่งข่าว คือ ไปทำความรู้จักตำรวจ ป้องกันจังหวัด ศูนย์วิทยุ ต้องไปทำความคุ้นเคยกับคนพวกนี้

สิ่งเดียวที่ห้ามทำเด็ดขาดคือไปรับเงินแหล่งข่าว ไม่เช่นนั้นจะดูถูกเรา ถ้าเราไม่รับ เขาจะเกรงใจเรา สร้างความสนิทสนมมากกว่าผลประโยชน์ ทำข่าวจะได้เดินทางไปต่างประเทศสมใจ ทั้งสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้  เพราะเรามีความฝันอยากได้ไปเที่ยว ดีใจ ได้ไป ข่าวแรกที่ได้รางวัลเยอะมาก มีหลายรางวัล  เป็นนักข่าวดีเด่น นักข่าวยอดเยี่ยมทุกปี รางวัลเดียวที่ไม่เคยได้คือ ภาพข่าวยอดเยี่ยม เขาคงไม่พิจารณาให้เรามั้ง เพราะบางปี เห็นภาพนที่ได้รางวัลแล้วของเราอย่างดีกว่าด้วยซ้ำ

อดีตนักข่าวไทยรัฐภูมิภาคประจำจังหวัดอุบลราชธานีเล่าแบบน้อยใจว่า ตอนไปทำข่าวนายพลวังเปา เปิดยุทธการสู้รบระหว่างลาวขาวกับลาวแดง สำนักงานไทยรัฐบอกว่าจะมีข่าวใหญ่ให้รีบไปที่ช่องเม็ก ตอนนั้นสนิทกับผู้การจังหวัดขอตำรวจไปเพื่อนด้วย แกยังบอกว่า จะไปอย่างไรผู้หญิงคนเดียว เขาจะหลอกไปตีนะสิ ตอนนั้นยังมีม็อบด้วย เราต่อรองว่า ถ้าอย่างนั้นหากมีอะไรไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน ขอให้โทรศัพท์บอก

สุดท้ายเธอกลายเป็นนักข่าวคนเดียวเข้าไปอยู่วงล้อมกลางป่าที่มีการปะทะกัน มุดลวดหนามข้ามไปฝั่งลาว ยังไม่ทันไรเสียงปืนดังรัวเป็นชุด ต้องวิ่งออกมา คนที่คุยกับเธอก่อนหน้านอนตายอยู่ตรงนั้น กองทัพลาวแตกเข้ามาในไทย จับได้ทั้งหมด 27 คน  เชื่อไหมว่า ข่าวนี้ไม่ได้รางวัล ภาพยังไม่ให้เราเลย เป็นภาพคนกำลังวิ่ง นอนตายเป็นศพเราก็ถ่ายไว้ เป็นภาพสด ๆ ไม่เอา ไปเล่นภาพจับคนลาวมา คือภาพมันแห้ง เป็นภาพมาจากสำนักข่าวเอพีอีกต่างหาก ไม่สวยเหมือนภาพเราด้วยซ้ำ แค้นมาก ตอนนั้นพูดระบายไม่ตบ จนหัวหน้าต้องปราบว่า เลิกพูดเสียทีเถอะ แต่ความรู้สึกของเรามันแย่ เสี่ยงก็เสี่ยง อุตส่าห์ส่งข่าว มีคนรับข่าวได้ยินเสียง ยังถามเรามาว่า เสียงอะไร  บอกว่า เสียงปืน มันยิงกัน ให้รีบออกมาเลย ไม่ปลอดภัยแล้ว

อีกคดีสำคัญที่เธอได้มีโอกาสพิสูจน์ฝีมือเป็นคดีใหญ่เมื่อ ..ชายชาญ กรรณสูต ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ถูกมือปืนยิงเสียชีวิตที่โรงแรมปทุมรัตน์ กลางเมืองอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 4 เมษายน  2523 ระหว่างเชิญ พล..เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ นายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานเปิดสถานีย่อยที่อุบลราชธานี วีนัสเล่าว่า กำลังไปดูหนังมีตัวหนังสือที่หน้าจอบอกว่า ผู้อำนวยการช่อง 7 ถูกยิง รีบออกจากโรงหนังไปยังที่เกิดเหตุ ส่งข่าวกับนิตย์ จอนเจิดสิน สอนให้เรารู้ว่าต้องเรียบเรียงอย่างไร ไม่ให้ตื่นเต้น เพราะถือเป็นข่าวใหญ่ ช่อง 7 ส่งนักข่าวจากส่วนกลางมาเลย

นักข่าวจากส่วนกลางมากันหมด เพราะคิดว่า วีนัสคนเดียวคงจะไม่รอด ได้พี่นิตย์ช่วยสอนให้เอาประเด็นไหนมาเล่นแต่ละวัน กำชับด้วยว่า เราแชร์ให้พรรคพวกได้แต่อย่าบอกหมด ต้องเก็นของเราไว้ มันแข่งขันกัน ยังดีเราเข้านอกออกในได้ แอบไปดูสำนวนตำรวจ มีเทปเล็ก ๆ อันหนึ่งอ่านแล้วอัดเสียงมา พี่นิตย์สอนอย่างละเอียด เจ้าตัวว่า

ประสบการณ์ทำข่าวมา 40 ปีแล้ว วีนัสแทบจะเรียกได้ว่าเป็นนักข่าวหญิงต่างจังหวัดคนแรกของวงการ เพราะสมัยนั้นมักไม่รับนักข่าวผู้หญิงลุยภาคสนาม ถามว่าประทับใจข่าวอะไรมากที่สุด เธอว่าเยอะไปหมด แต่ประเภทเสี่ยงตาย น่าเป็นสมัยทำข่าวผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่กิ่งอำเภอเสนางคนิยม อำนาจเจริญ มีฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนถูกโจมตี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชวนไปเยี่ยมฐานในวันรุ่งขึ้น ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป เป็นที่โล่ง ไม่มีต้นไม้ กลางทุ่งนา ขากลับเฮลิคอปเตอร์สตาร์ตไม่ติด ส่งวิทยุไม่ได้ เพราะคอมมิวนิสต์ดักฟัง ต้องบอกให้คนไปซื้อแบตเตอรี่ที่อำนาจเจริญ  ระหว่างที่รออากาศเริ่มมืด มีความเคลื่อนไหวรอบหัวนา ฐานปฏิบัติการถูกล้อมแล้ว เราคิดว่า ไม่รอดแน่ นึกในใจตายก็ตาย นายก็ยังอยู่

วิกฤติสถานการณ์ผ่านพ้นไป เมื่อช่างเครื่องเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจตะเวนชายแดน เอาสายไฟมาชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ที่ถูกยิงพรุน สตาร์ตจนเครื่องติด สีหน้าของรองผู้ว่าราชการจังหวัดโล่งใจเลย  พอเฮลิคอปเตอร์ยกตัวขึ้นชะโงกมองลงไปข้างล่างเห็นเงาคอมมิวนิสต์หมอบรอบ 4 ทิศของฐานปฏิบัติการเต็มไปหมด เหมือนมันรู้ว่ามีคนใหญ่คนโตมา คิดว่าเที่ยวนั้นหวาดเสียวและเสี่ยงสุด มาอกีครั้งก็ตอนนายพลวังเปายิงกันสนั่นชายแดน วีนัสไม่ลืมภาพเก่า

การทำงานข่าวในจังหวัดอุบลราชธานี เธอยังเผชิญอิทธิพลบ้างบางคราว แต่ไม่เคยมีความกังวลอยู่ในหัว บางทีสะกิดเรื่องหวย เรื่องบ่อน จะมีเจ้าของบ่อนส่งตำรวจมาขอจ่ายเป็นรายเดือน วีนัสว่า เขาเคลียร์กันหมดแล้ว เหลือเราคนเดียว เราปฏิเสธ ก็กลับมาเสนอใหม่พร้อมตัวเลขเดือนละ 5,000 บาท ก่อนเสนอเป็นวันละ 5,000-7,000 บาท เราก็ยืนยันว่าไม่เอา พวกนั้นหลุดมาคำหนึ่งว่า ลูกปืนจะเอาไหม เท่านั้นแหละเราขับรถไปหน้าบ่อนเลย เรียกเจ้าของลงมา เหมือนคนบ้า คือ โมโห มาดูถูกกัน “เราบอกว่า มึงเคลียร์หมดแล้ว มึงกลัวอะไรกูล่ะ ใช่ไหม ถ้าไม่ถูกจับแล้ กูจะทำข่าวได้ไง  เราไม่ได้ตี มันก็ยกมือไหว้ปะหลก

การทำข่าวต่างจังหวัด วีนัสสารภาพว่า ค่าตอบแทนน้อย แล้วจะอยู่ได้อย่างไรในความทุ่มเท ก็มีเงินเดือนจากที่เราเป็นครูด้วย แต่เป็นครูที่ไม่ค่อยได้สอน  แต่ในมุมมองประสบการณ์การทำงานข่าวของนักข่าวรุ่นใหม่ มองว่า เดี๋ยวนี้มือถือเครื่องเดียว ทำข่าวได้แล้ว ไม่ใช่แบบเดิม ไม่ได้ใช้ความสามารถที่แท้จริง เพราะว่าสมัยก่อนเราต้องลงพื้นที่เอง หาข้อมูลเอง อะไรเอง สื่อสมัยนี้ เอาตามโซเชียลใช่ไหม อย่างโน้นอย่างนี้ บางทีก็จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ถูกฟ้องร้องกันก็เยอะ

เธออยากฝากข้อคิดไว้ว่า ความเป็นพวก เรามีพวก  อะไรที่อะลุ้มอล่วยได้ ไม่หนักหนา เราก็ให้ เราก็ทำ  ไม่ใช่ตะบี้ตะบันอยากจะได้ข่าวอย่างเดียว บางทีต้องแลกเปลี่ยนกัน  ปัจจุบันเป็นข้าราชการบำนาญ ข่าวไม่ค่อยได้ส่งแล้ว เว้นถ้าเรามีบางเรื่องที่ว่าเด็กทำไมได้ ไม่สามารถที่จะไปล้วงลึกมาได้ อาจไม่พ้นเราอยู่ดี  ถามว่า แล้วไทยรัฐให้อะไรกับเรา ให้เยอะมาก

ถ้าเราไม่ใช่นักข่าวไทยรัฐ เราจะไปรู้จักคนนั้นคนนี้ได้หรือ ไม่มีทางหรอก สมัยทำข่าว ตอนนั้นว่าผู้ว่าฯ สิวะ แสงมณีดังมาก เราเป็นนักข่าวคนเดียวที่อยู่ในชมรม คนนอกมียัยบ้านี่คนเดียว แล้วถามว่า เคยมีเรื่องถูกร้องเรียน ถูกอะไรไหม เยอะแยะเลย อย่างฝ่ายตรงข้ามก็ร้องไปว่าอย่างโน้นอย่างนี้ สมัยหนึ่งเป็นเรื่องที่เสียใจไหม เสียใจ สภาการหนังสือพิมพ์ตอนนั้นกระทืบซ้ำ ส่งคนจากสภาหนังสือพิมพ์มาสอบ สอบยังไงรู้ไหม แทนที่ว่าจะเขียนเป็นแบบจดบันทึกไป มันเล่นแร่แปรธาตุ เปลี่ยนขาวเป็นดำ ดำเป็นข่าวไปหมดเลยจนสภาหนังสือพิมพ์มีมติลงมาว่า วีนัสผิดจริงสั่งต้นสังกัดไทยรัฐให้ดำเนินการกับนักข่าวคนนี้

พอเอาเข้าประชุมบอร์ด วีนัสว่า ที่ประชุมลงความเห็นตามหัวหน้าข่าวหน้า 1 บอกว่า ไม่เชื่อว่า เราจะมีพฤติกรรมอย่างที่ว่า แม้กระทั่งคุณสราวุธ วัชรพล ประธานบอร์ดยังบอกว่า ถ้าเราคิดว่า คนของเราดี ไม่ต้องไปสนใจ  ทำไมจะต้องไปฟังคนอื่น ทำให้เรารู้สึกว่า ความเป็นธรรมมีอยู่จริง

หลากหลายประสบการณ์ข่าวของเธอยังมีเรื่องราวของข่าวที่ไม่ได้ถูกนำเสนอความจริง เพราะกระบวนการผลิตมีปัญหากับการสื่อสารรับส่งข้อมูลถึงมือรีไรเตอร์ อาที นักศึกษาสาวราชภัฏกินยาฆ่าตัวตาย เขียนจดหมายบรรยายความรู้สึกหดหู่ แม่มาพบศพตอนอืด มีการบรรยายข่าวไปในเรื่องถูกล่วงละเมิดทางเพศทั้งที่จริงไม่ใช่ แถมไม่ได้เล่นเรื่องจดหมายที่เธอได้มาเป็นฉบับเดียว

วีนัสบอกด้วยว่า บางทีทะเลาะกันเรื่องการส่งข่าว รีไรเตอร์จะให้พิมพ์อย่างเดียว แล้วส่งแฟกซ์ ไม่ยอมรับตรง ๆ ขี้เกียจว่า งั้นเถอะ อย่างข่าวเขื่อนปากมูลอยู่ประมาณ 80 กิโลเมตร แล้วต้องไปต่ออีก รวมแล้ว 100 กว่ากิโลเมตรแล้วจะให้พิมพ์ส่ง ให้ไปพิมพ์ส่งที่ไหน ที่น่าโมโหสุด เป็นข่าวเขมรฆ่าคนไทยตาย 9 ศพที่ช่องจอมติดชายแดนเขมร โทรศัพท์ไปโรงพิมพ์กลับบอกว่า สิรินธรม็อบกำลังจะตีกัน ไม่ใช่ช่องจอม ช่องเม็ก จากช่องอานม้า เออ บอกว่ากำลังจะตีกัน ถามว่า ทำได้ไหม บางทีอยู่ข้างในไม่รู้สภาพพื้นที่ เคยเถียงไปว่า อุบลราชธานีพื้นที่ขนาดไหน ไม่ใช่สมุทรสงครามมีแค่ 3 อำเภอ มองไปที่ยอดมะพร้าวก็เห็นหมด

อดทนทำงานข่าวกว่า 40 ปี เธอให้เหตุผลเพราะใจชอบ แต่ตอนหลังไม่ได้มีไปเที่ยวต่างประเทศแล้ว เลยไม่อยากทำ ประกอบกับเบื่อ ถูกปิดข่าว  ถูกอะไรต่อมิอะไร ทำให้เซ็ง และเบื่อหน่าย

 

 

 

 

RELATED ARTICLES