รวบหนุ่มป่วยจิตปลอมเฟซบุ๊กสวมรอย “รองต่อศักดิ์” แชตคุยสาว

 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.วิวัฒน์  คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐกร  ประภายนต์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 พ.ต.ท.คงกฤช รุ่งเรือง สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าว กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2  ตรวจสอบกรณีผู้ใช้เฟชบุ๊กโปรไฟล์ “พลตํารวจโท ใหญ่ สิธิมงคล” มีการใช้รูปของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นหน้าโปรไฟล์ เกรงว่าจะใช้ไปในทางผิดกฎหมาย สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชนแจ้งเบาะแสมา

กระทั่งสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเชาวฤทธิ์ วอนวงษ์ อายุ 32 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 71/1 หมู่  3 ตำบลโนนห้อม อำเภอเมืองปราจีนบุรี ก่อนนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมกับขอตรวจสอบอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือพบบทสนทนาในแชตเฟซบุ๊กกับผู้หญิงสาวในลักษณะเชิงชู้สาวจํานวนกว่า 20 คน แต่ไม่ปรากฏว่าเ กิดความเสียหาย หรือมีผู้หลงเชื่อ สอบสวนสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุจริง พร้อมขอโทษที่ได้กระทำลงไป ส่วนสาเหตุที่ทำ เพราะชื่นชอบในตัวของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อีกทั้งต้องการพูดคุยกับหญิงสาวเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาไปหลอกลวงในทางอื่น อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบยังพบว่าผู้ก่อเหตุมีบัตรประจำตัวผู้ป่วยของโรงพยาบาลจิตเวชสสระแก้วราชนครินทร์ด้วย

ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่า จากการตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้มีการนำไปใช้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ อีกทั้งผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิตเวช เป็นผู้ป่วย ตนไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ได้ว่ากล่าวตักเตือนไม่ให้กระทำแบบนี้อีก ไม่ว่ากับใครก็ตาม ก่อนมอบหมายเจ้าหน้าที่ประสานไปยังโรงพยาบาลเพื่อนำตัวส่งรักษา และทำบันทึกและตรวจสอบประวัติ

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ย้ำว่า ส่วนตัวเลิกเล่นเฟชบุ๊กนานแล้ว ฝากไปยังประชาชนว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการติดต่อสื่อสารการที่จะพูดคุยกับใครจะต้องตรวจสอบโปรไฟล์ให้ดีว่า บุคคลที่เราพูดคุยนั้นมีโปรไฟส์ชัดเจนหรือไม่ ในกรณีที่แอบอ้างเป็นตน หรือข้าราชการตำรวจสามารถตรวจสอบได้จากแอปพลิเคชันของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการระบุข้อมูล ชื่อ-สกุล เบอร์โทรศัพท์ สังกัดรวมอยู่ในนั้น  อยากประชาสัมพันธ์เพราะห่วงประชาชนว่าจะตกเป็นเหยื่อ เพราะมีเคสลักษณะนี้ที่ไม่ตรวจสอบ สุดท้ายถูกทำมิดีมิร้ายตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเกิดความเสียหายทั้งร่างกายและทรัพย์สิน

RELATED ARTICLES