ทลายเครือข่ายเงินกู้ทำผู้เสียหายผูกคอตายมีเงินหมุนเวียนกว่า 73 ล้านบาท

 

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 สั่งการ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 นำกำลัง พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 กับพวกทลายเครือข่ายแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบรายใหญ่

สืบสวนจับกุมผู้ต้องหารับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มนายทุนชาวจีนแก๊งคอลเซนเตอร์ จำนวน  9 คน 17 หมายจับ อายัดตัวในเรือนจำ 2 คน ประกอบด้วย นางสานี วา ชาวกัมพูชา ตามหมายจับ 3 หมาย ได้ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง สระบุรี นายรณกร ชุดพิมาย ได้ในเขตพื้นที่ตำบลดอนหัวฬ่อ อำเภอเมืองชลบุรี นายรุ่ง พิพัฒรัตนะ ได้ในเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร จับกุม น.ส.ศิวะพร แซ่หลิม เขตอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต น.ส.พิมลรัตน์ สว่างชูแก้ว ในเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร  นายกิตตินันท์ อายุยง ในอำเภอโพธิ์ธาราม จังหวัดราชบุรี น.ส.กัญญาภัคร เปล่งกระโทก ในอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ทั้งหมดรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้นายทุนชาวจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์และหลอกผู้เสียหายทางแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบจนเครียดผูกคอตายในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนขยายผลออกหมายจับหัวหน้าเครือข่ายชาวจีนอีกหลายคนที่พบเส้นทางการโอนเงินเป็นทอด ๆ ในเวลาเพียง 2-3 นาทีผ่านบัญชีม้า 6-7 ทอด

 

พฤติการณ์ในการจับกุมเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 04.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุนายอัฐวุฒิ ผมเพ็ชร อายุ 35 ปี ผูกคอเสียชีวิตภายในบริเวณบ้านเลขที่ 240/68 หมู่ 11 ตำบลแปลงยาว อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา สาเหตุมาจากเกิดความเครียดที่กู้เงินออนไลน์ในแอฟพลิเชันเงินกู้ แต่กลับถูกหลอกให้โอนเงินไปให้ และไม่ได้รับเงินที่ต้องการขอกู้แต่อย่างใด เมื่อนายอัฐวุฒิเสียชีวิตแล้ว คนร้ายยังส่งข้อความมาหลอกให้โอนเงินอีก  พอญาติแจ้งว่า นายอัฐวุฒิเสียชีวิตแล้วจากการถูกแก๊งเงินกู้หลอกลวง ปรากฎว่า คนร้ายยังส่งข้อความเยาะเย้ยถากถางกับญาติผู้เสียชีวิตที่หลงเชื่อเข้ามาขอกู้เงินจากแอปพลิเคชันเงินกู้เอง

 

ต่อมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่ง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ 6/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ลง 20 เมษายน 2566 และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 มีคำสั่งที่ 61/2566 ลง 9 มีนาคม 2566  แต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ด้วยวิธีการหลอกลวงให้กู้ยืมเงินแต่ไม่ได้เงิน (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) สั่งให้ทำการสืบสวนสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสืบสวนจนทราบว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเครือข่ายแก๊คอลเซนเตอร์นี้ คือ “ชาวจีน”  ตั้งสถานที่ทำงาน อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ใช้วิธีการหลอกลวงผ่านทางสื่อโซเชียลต่างๆให้ผู้เสียหายหลงกลและเข้ามาทำเรื่องขอกู้เงิน เมื่อเหยื่อหลงกล คนร้ายจะโทรศัพท์หลอกลวงเหยื่อต่อไปว่า ท่านได้รับการอนุมัติให้กู้เงินแล้ว แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อนจะได้รับอนุมัติเงินกู้ เมื่อผู้เสียหายหลงกลโอนเงินให้กับคนร้ายผ่านบัญชีม้ คนร้ายก็จะแจ้งอีกว่าเหยื่อดำเนินการโอนเงินผิดขั้นตอน ต้องดำเนินการและวิธีการตามที่คนร้ายแนะนำเข้ามาใหม่ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากทำเสร็จแล้วจะได้ขยายวงเงินในการกู้เงินเพิ่มอีกเท่าตัว ทำให้เหยื่อผู้ที่ต้องการกู้ยืมเงินหลงเชื่อดำเนินการตามที่คนร้ายบอกมา วิธีการดังกล่าวนี้มีผู้เสียหายหลงกลตกเป็นเหยื่อแล้วจำนวนหลายราย การแกะรอยสืบสวนยังพบว่า “บัญชีม้า” ที่เหยื่อหลงกลและโอนเงินไปให้คนร้ายนั้นจะมีการโอนเงินต่อไปยังบัญชีม้าอื่นอีก  ใช้เวลาไม่เกิน 2 -3 นาที และจะโอนเงินต่อไปเป็นทอด ๆ ไปยังบัญชีอี่นๆ อีกจำนวนหลายบัญชี ทำให้ยากลำบากในการสืบสวนจับกุม และสั่งอายัดบัญชีได้ทันท่วงที

กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆที่มีความสลับซับซ้อน เสนอศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเพื่อพิจารณาจนกระทั่งศาลจังหวัดฉะเชิงเทราอนุมัติหมายจับจำนวน 13 คน 28 หมายจับ ส่วนใหญ่เป็นบัญชีม้า เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ าบางบัญชีฯในเครือข่ายมีเงินหมุนเวีย จำนวน 73 ล้านบาท และได้ขยายผลจนทราบว่ามีผู้เสียหายในคดีอื่นอีกอย่างน้อย 40 ราย ความเสียหายมูลค่าประมาณหลายล้านบาท  แสดงให้เห็นว่าเครือข่ายแอปพลิเคชันเงินกู้นี้ สามารถหลอกลวงเหยื่อให้หลงกลและโอนเงินให้กับเครือข่ายจำนวนหลายล้านบาทต่อวัน

พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ขอฝากประชาสัมพันธ์ผู้ที่หลงผิดยินยอม หรือมีส่วนรู้เห็นทั้งทางตรง หรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นนำบัญชีธนาคารของตัวเองไปให้คนร้ายใช้จะมีความผิดตามมาตรา 9 เปิดบัญชีม้า หรือซิมม้า โดยรู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 10 เป็นธุระ จัดหา โฆษณา หรือไขข่าว เพื่อให้มีการซื้อขายบัญชีเพื่อใช้ในการกระทำความผิด จำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 11 เป็นธุระ จัดหา โฆษณา หรือไขข่าวเพื่อให้มีการซื้อขายหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งลงทะเบียนในนามบุคคลอื่นแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้จริงได้ จำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

RELATED ARTICLES