สปิริตเพราะพิษส่วย

 

“ต้นเหตุคือ เรื่องรถบรรทุกหนักเกินกำหนด” พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงแฉข้อเท็จจริง

กระนั้นก็ตาม ไม่อาจปฏิเสธเรื่องส่วยตำรวจทางหลวงตามที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กแฉกลุ่มผู้ประกอบการร้องเรียนส่งข้อมูลหลักฐานเรื่องส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกมาให้

พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ เรียกประชุมหัวหน้าสถานีตำรวจทางหลวงทั่วประเทศตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแผลที่ถูกทิ่มจนสะดุ้งกันทั้งหน่วย “โปลิศไฮเวย์”

เหมือนเรื่องเก่าเอามาเขย่ากระแทกภาพลักษณ์ตำรวจทางหลวง

เจ้าตัวยืนยันพร้อมจะตรวจสอบข้อมูลตามที่ได้รับการร้องเรียเกี่ยวกับ “สติกเกอร์” ติดหน้ารถบรรทุกราวกับเป็นอาณัติสัญญาณ “ไฟเขียว” เคลียร์เส้นทางหมดแล้ว

ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงยอมรับว่า เรื่องส่วยเป็นปัญหาที่มีมานาน แต่คือ ปลายเหตุ ต้นเหตุ คือ เรื่องรถบรรทุกหนักเกินกำหนด การแก้ไขจำเป็นต้องแก้ในภาพรวม โดยเฉพาะเรื่องการแก้กฎหมาย

“ในปัจจุบันกฎหมายให้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ ไม่ใช่ผู้ประกอบการรถบรรทุก เมื่อผู้ประกอบการไม่ได้รับผลกระทบ ทำให้เกิดการกระทำผิดซ้ำ” พล.ต.ต.เอกราชกระทุ้งความจริง

ดังนั้นอาจต้องพิจารณาเรื่องแก้ไขกฎหมาย เช่น หากจับรถบรรทุก 1 คันพบว่าบรรทุกหนักเกิน 20 เปอร์เซ็นต์

ต้องสั่งยึดรถทุกคัน

เขาเชื่อว่าคงสามารถยึดรถบรรทุกได้หลายหมื่นคัน อาจทำให้ผู้ประกอบการเกิดความเกรงกลัวไม่กล้ากระทำผิด

“ต้องย้อนถามไปยังสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยด้วยว่า อะไรคือปัญหาที่แท้จริง ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความเห็นแก่ตัวจนต้องบรรทุกหนักเกิน” พล.ต.ต.เอกราชย้ำ

กระนั้นก็ตาม เจ้าตัวเรียกผู้กำกับการและสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงทั่วประเทศมาประชุม เพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน กำหนดทิศทางการทำงาน ยืนยันหากมีเจ้าหน้าที่คนใดกระทำผิดต้องรับผิดชอบผลการกระทำตัวเองจะมาอ้างว่า อาชีพตำรวจไม่พอกินไม่ได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้นให้ไปเลือกอาชีพอื่น

ไม่ใช่มาใช้อาชีพตำรวจหากิน

ทว่าสุดท้ายแล้วตัวเองในฐานะผู้นำหน่วยขอแสดงสปิริตยื่นเรื่องถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางขอโยกไปปฏิบัติหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อลดกระแสที่เกิดขึ้น

ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน “สติกเกอร์ส่วย” พัวพันตำรวจทางหลวงหรือไม่

เป็นเหตุผลให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางลงนามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ 172/2566 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ให้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงไปปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม

พร้อมกันนี้ ยังได้ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวงอีกตำแหน่ง

และมีคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นด้วย

เพื่อให้ทุกอย่างโปร่งใสไร้ข้อเคลือบแคลงจากสังคม

 

 

RELATED ARTICLES