ประชารัฐร่วมใจ ดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน

ระดมกำลังตำรวจนับแสนนายเตรียมความพร้อมรับมือช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ 2561

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นแม่งานรับผิดชอบ โดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ภายใต้โครงการที่มีชื่อ “สวยหรู” ล้อไปกับนโยบายของรัฐบาล

“ประชารัฐร่วมใจ ดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน ช่วงเทศกาลสำคัญ”

คล้าย “โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ” ในยุคสมัย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตนายพลนักประชาสัมพันธ์ริเริ่มและประสบความสำเร็จมาแล้ว

เมื่อพ้นเก้าอี้เกษียณอายุราชการตามระบบ ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสถานการณ์การเมืองและนโยบายการบริหารของผู้นำ

ไม่ต่างเหล้าเก่าในขวดใหม่ รสชาติจะไฉไลถูกปากถูกใจหรือไม่อยู่ที่คนปรุง

บ่อยครั้งงานประชาสัมพันธ์ของตำรวจล้มเหลวพังไม่เป็นท่าเพราะ “ไม่เตะตา”สังคม

ถึงกระนั้นก็ตาม ต้องชื่นชมความพยายามของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เดินหน้าโครงการประชารัฐร่วมใจ ดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน ช่วงเทศกาลสำคัญ ประเดิมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัดเปิดรับฝากบ้านจากประชาชนตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2561  โดยประชาชนสามารถเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้ 3 ช่องทาง

  1. มาฝากด้วยตนเอง ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ที่บ้านเรือนของท่านตั้งอยู่
  2. โทรศัพท์มาที่สถานีตำรวจในพื้นที่ที่บ้านเรือนของท่านตั้งอยู่ สถานีตำรวจจะส่งเจ้าหน้าที่ไปพบ
  3. สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มจากทางเฟซบุ๊ก หรือเว็บไซต์ของสถานีตำรวจแล้วส่งแฟกซ์กลับมายังสถานีตำรวจในพื้นที่ที่บ้านเรือนของท่านตั้งอยู่

ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาย้ำว่า จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราดูแลความเรียบร้อยความปลอดภัยของบ้านเรือนประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงมีการนำเอาแอพพลิเคชั่น Police i lert u” และ แอพพลิเคชั่น LINE มาใช้เสริมในการปฏิบัติงานของตำรวจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งประชาสัมพันธ์ถึงเจ้าของบ้าน “ผู้เข้าร่วมโครงการ” ควรติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้อีกส่วนหนึ่ง เพราะหากกรณีมีเหตุเกิดขึ้น ตำรวจจะได้สามารถเร่งรัด ติดตาม จับกุมผู้กระทำความผิดได้ทันที

สุดท้ายวนกลับมาเจอคำถามเดิม

“แล้วบ้านที่ไม่ร่วมโครงการตำรวจจะดูแลเป็นพิเศษด้วยหรือเปล่า”

และหากไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ตำรวจจะติดตามคนร้ายได้ไหม

พิสูจน์ให้เห็นความล้มเหลวของงานประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์องค์กรตำรวจ

 

RELATED ARTICLES