โศกนาฏกรรมชีวิตของ “สารวัตรป๊อบ” พ.ต.ต.สหัสวรรษ พันธ์เกตุ สารวัตรฝ่ายแต่งตั้ง สำนักงานกำลังพล ยังคงเป็นปริศนา
ที่ไม่มีใครไขว่คว้าหาคำตอบ
เหตุให้นายตำรวจหนุ่มกำลังมีอนาคต บุคลิกเป็นคนอารมณ์ดี เป็นที่รักในหมู่พี่น้องผองเพื่อนต้องด่วนระเบิดขมับตัวเองคาห้องทำงาน
ภายในอาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทิ้งจดหมายบอกลาด้วยเพราะว่าเป็น “โรคซึมเศร้า” แค่นั้นจริงหรือ
ข่าวว่า กลุ่มนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 63 ยังติดใจชนวนมรณะของเพื่อนรัก ปักใจเชื่อว่า “ความกดดัน” ในเนื้องานการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายเปลี่ยนความคิดให้เขาตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
ราวกับการแต่งตั้งโยกย้ายนอกจากสร้างความเครียดแก่บรรดาตัวละครที่ต้องวิ่งเต้นกัน ขาลอย-ขาขวิด ยังสร้าง “ความวิตกจริต” แก่นายตำรวจผู้มีหน้าที่ทำบัญชีแต่งตั้งไปด้วย
ระบบไม่ได้ห่วย แต่นายบางคนมันเฮงซวยหรือไม่
คำตอบคงมีหลายคนอยากรู้ ทว่าไม่มีใครกล้าสืบสาวเอาความจริง โยนพิษของ “โรคซึมเศร้า” เป็นตัวการทำลายอนาคตสารวัตรหนุ่มติดกลุ่มนำเพื่อนในรุ่น
ถึงกระนั้นก็ตาม มีข้อมูลจาก พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุว่า ปี 2560 ตำรวจขอรับการรักษาโรคซึมเศร้าที่กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด โรงพยาบาลตำรวจ 49 นาย เป็นชาย 30 คน หญิง 19 คน แนวโน้มการรักษาเริ่มจากทานยาต่อเนื่อง 3-6 เดือน พบแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อวินิจฉัยอาการ รวมทั้งให้คำปรึกษา หรือทำจิตบำบัดช่วยในการปรับตัว
พ.ต.อ.กฤษณะบอกว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาต่อเนื่องในระยะเวลา 1-2 ปีจะสามารถกลับมาเป็นปกติ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับอาการผู้ป่วยแต่ละคนที่เริ่มเข้ารับการรักษาและรับยาต่อเนื่องแค่ไหน ขอประชาสัมพันธ์สำหรับตำรวจหรือญาติที่พบว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า ควรปรึกษาพูดคุยหรือขอแนะนำจากญาติหรือผู้บังคับบัญชา หรือเพื่อนร่วมงาน และขอรับคำปรึกษา รักษาอาการได้ที่กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด โรงพยาบาลตำรวจ โทรศัพท์หมายเลข 0-2207-6144 0-2207-6000 ต่อ 6144 และมือถือ 06-3195-8001
ส่วนอาการซึมเศร้าเราจะรู้ได้อย่างไร พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่า ในผู้ที่เริ่มมีอาการจะสามารถสังเกตตัวเองได้ แต่หากมีอาการรุนแรง ครอบครัว ผู้ใกล้ชิดต้องช่วยกันสังเกต
- มีอารณ์ซึมเศร้า
- ความสนใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงอย่างมาก
- น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก เบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมาก
- นอนไม่หลับหรือหลับมากเกินไป
- กระวนกระวายอยู่ไม่สุขหรือเชื่องช้าลง
- อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง
- รู้สึกตนเองไร้ค่า
- สมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจไปหมด
- คิดเรื่องการตายหรือคิดอยากตาย
แต่สิ่งที่น่ากังวลสุดสำหรับอาชีพตำรวจ เมื่อมีปืนอยู่ข้างกาย แค่ตัดสินใจพลาดด้วย “อารมณ์ชั่ววูบ”หมายถึงชีวิต
ทว่าจะเป็นชีวิตของใคร
ตัวเอง ครอบครัวลูกเมีย เพื่อนร่วมงาน ชาวบ้าน หรือผู้บังคับบัญชา
เพราะฉะนั้นอย่าแก้ปัญหาปลายเหตุ โดยไม่มองถึงต้นเหตุที่แท้จริง