ยิงปืนขึ้นฟ้าฆ่าคนได้

 

ปฏิบัติการ “กรีธาทัพจับตั๊กแตน”แสดงแสนยานุภาพ

มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น “หัวหอก” พา หน่วยอรินทราช 191 พร้อมอาวุธครบมือจู่โจมเข้าสยบฤทธิ์ซ่า “เสก โลโซ” ร็อกเกอร์หนุ่มคนดังที่บ้านย่านคันนายาว

สังคมได้ความสะใจ

แต่ชาวบ้านจะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องที่เกิดขึ้น

ท่ามกลางความไม่เข้าใจ ทำไม “แม่ทัพใหญ่” ต้องลงบู๊สะบั้นเพียงเพื่อจับศิลปินนักร้องของเมืองไทยราวกับเป็น “มือปืนพระกาฬ” หรือ “ผู้ก่อการร้ายคดีสำคัญ” บ่อนทำลายความมั่นคงประเทศ

สุดท้ายแล้วคงได้แต่จะมองต่างมุม

ว่ากันถึงพฤติกรรมห้าวเป้งของ “เสก โลโซ” โชว์เฟซบุ๊กไลฟ์ “ยิงปืนขึ้นฟ้า” ออกสู่สาธารณชนคนเห็นกันทั่วโลก กระทั่งเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ย่อมพิสูจน์ให้เห็นชัดว่า ชาวบ้านยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้

วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยได้อธิบายหลัก “ฟิสิกส์กับการยิงปืนขึ้นฟ้า” ระบุว่า สำหรับปืน 9 มิลลิเมตร เมื่อยิงออกไปความเร็วของกระสุนคือ 1,080 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเร็วมากกว่าเครื่องบินโดยสารที่บินอยู่ 850 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

กระสุนที่ยิงขึ้นไปได้สูงถึง 3.4 กิโลเมตรในเวลาเพียง 26.5 วินาที สูงกว่าดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงสุดในประเทศไทยราว 1 กิโลเมตร

กระสุนยิงเดินทางได้ไกลเกือบ 4 กิโลเมตร ความเร็วในการชนจะเหมือนกับปล่อยประสุนจากความสูง 3.4 กิโลเมตรตกใส่หัวคน เทียบเท่ากับการปล่อยของหนัก 5 กิโลกรัมจากความสูง 5 เมตรหล่นใส่หัว

เพราะฉะนั้น “การยิงปืนขึ้นฟ้าก็ฆ่าคนได้”

ยุคสมัย พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี เป็นผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้ประชุมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ทั้งในกลุ่มงานฟิสิกส์ และอาวุธปืน เพื่อไปศึกษาข้อเท็จจริง ประเมินสถานการณ์ และสร้างองค์ความรู้แก่เจ้าหน้าที่

ก่อนมีคำสั่งห้ามตำรวจทั้วประเทศยิงปืนขึ้นฟ้าเพราะจะเป็นเยี่ยงอย่างแก่ประชาชน โดยคาดโทษทั้งทางวินัยและอาญาไว้อย่างเด็ดขาด

ต่อมาได้รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงภัยอันตรายจากการยิงปืนขึ้นฟ้าในงานเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ ด้วยการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์เตือนประชาชนที่ยังไม่ทราบถึงอันตราย

หาช่องกฎหมายเล่นงานหนัก

กำหนดมาตราการจริงจัง ตั้งแต่ สร้างฐานข้อมูลเกี่ยวกับการครอบครองปืน จัดทำฐานข้อมูลปืนระดับท้องถิ่น เผยแพร่ความรู้ และ “สร้างค่านิยมใหม่” ให้รู้เท่าทันว่า กระสุนที่ยิงไปแต่ละนัด “มีอันตราย” ไม่ว่าจะยิงตรง หรือยิงวิถีโค้ง

ขณะเดียวกันพบว่า ที่ผ่านมาการแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาทอันตราโทษไม่สูง ผู้กระทำผิดถึงไม่เกรงกลัว

ให้พิจารณาว่า การยิงปืนขึ้นฟ้า วินิจฉัยได้ว่า เจตนาเล็งเห็นผล ไม่ใช่ผิดแค่ประมาทเลินเล่อ

แต่เป็นเจตนาทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ฝากไว้เป็นข้อคิด ถ้าอยากจะยึดติด “ปฏิบัติการ IO โชว์ศักยภาพ” อาจต้องเรียนวาดภาพให้เป็นแล้วค่อยเล่นกับมัน

      

 

RELATED ARTICLES