“มันคงเป็นเวรกรรมที่ผมทำไว้เยอะ” พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว อดีตมือปราบคนดังภาคใต้เอ่ยกับนายตำรวจรุ่นน้อง
ในทันทีที่ตัดสินใจโยนทิ้งอิสรภาพ
มอบตัวเดินเข้าคุกอย่างลูกผู้ชาย
เส้นทางชีวิตของเขาผ่านบทบู๊ล้างผลาญและวิบากกรรมมาอย่างโชกโชน เกิดจังหวัดชุมพร มาโตกรุงเทพมหานคร จบมัธยมโรงเรียนวัดราชโอรส ก่อนเข้าโรงเรียนตำรวจนครบาลรุ่น 48 รับราชการเป็นพลสำรองพิเศษ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการโรงเรียนตำรวจนครบาล
ต่อมาเรียนจบปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เข้าหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอส.)รุ่น 2 ติดยศ ร.ต.ต.ตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระนอง
หลังจากนั้นชีวิตวนเวียนอยู่กับงานสืบสวนละแวกบ้านเกิด
ขยับเป็นรองสารวัตรสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธร 4 เป็นรองสารวัตรสืบสวนจังหวัดชุมพร แล้วกลับไปขึ้นสารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองระนอง เป็นรองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเคียนชา จังหวัดสุราษฎร์ธานี รองผู้กำกับการหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร
ผงาดนั่งเก้าอี้ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 เป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และขยับกลับเป็นรองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์สืบสวนสอบสวนภูธรภาค 8 ถึงขึ้นผู้บังคับการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่บริหารและให้คำปรึกษาด้านสืบสวน)
ปี 2552 ออกนอกถิ่นถนัดลงนอกพื้นที่ภาคอีสานครั้งแรกเป็น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ นาน 2 ปีเศษ เจอมรสุม เข้ากรุจากเหตุผลทางการเมืองด้วยเรื่อง “วางตัวไม่เป็นกลาง” แต่พอคลื่นลมสงบได้เก้าอี้คืนเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช
เสร็จสรรพขึ้นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไม่ถึงปี โดน อำนาจนักการเมือง แทรกซ้อนอีกระลอก ทำกระเด็นไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนย้ายไปพักเป็นรองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี
เตรียมเกษียณอายุราชการเมื่อปี 2560 จ่อติดยศ พล.ต.ท. ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ
ดันมีอาเพศตกเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับศาลฎีกา
ส่งให้โชคชะตาพลิกผันจากชีวิตนายพลมือปราบเปลี่ยนบทบาทเป็น “นักโทษชาย รณพงษ์ ทรายแก้ว”