พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รำพึงรำพันความหลังเมื่อครั้งก้าวเข้าไปอบรมโครงการหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นพิเศษของกองบัญชาการตำรวจนครบาลยุค พล.ต.ท.โสภณ วาราชนนท์ นั่งเป็นแม่ทัพ
หลักสูตรสืบสวนที่ดีสุดในประวัติศาสตร์กรมตำรวจ
หมายมั่นจะปลุก ปั้น 30 ทายาทนักสืบรุ่นใหม่ เป็นกองกำลังนอกเครื่องแบบรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของกองบัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อปี 2540
ยุบกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลพระนครเหนือ กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลพระนครใต้ กองกำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาลธนบุรี
กำเนิดใหม่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 1-9
เจ้าตัวคิดถึง วัน เวลา “ที่เราเคยสร้าง” เมื่อนำวิทยายุทธไปถ่ายทอดต่อให้ตำรวจรุ่นต่อไป
วันที่เราเคยอยู่ในจุดที่ได้สร้างทีมงานน้องๆ..ให้มีความรู้ ..ความเข้าใจ… มีทักษะ.. มีจินตนาการ ..ในเนื้องานที่ต้องทำ ..
เพื่อให้น้อง ๆ สามารถนำความรู้ ความชำนาญ มาทำงานให้กับองค์กรตำรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เราจะพร่ำสอนน้อง ๆ ว่า วันหนึ่ง เมื่อน้อง ๆ ทำงานด้วยตัวเองได้ทุกมิติ..ไม่ต้องพึ่งพาใครมากสามารถทำงานแต่ละชิ้นด้วยตัวเอง ..ด้วยทีมงานเล็กๆ ของตัวเอง แต่ทำได้ทุกอย่าง”
เมื่อนั้น น้อง ๆ จะเป็น “เพ็ชรเม็ดงาม” ที่ใคร ๆ ก็อยากใช้งาน
ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานจะติดตามมา (ก็ยังเชื่อเช่นนี้อยู่ ดูตัวอย่าง อาจารย์นพ- พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ อาจารย์จ๋อ- พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ )
วันนั้นน้อง ๆจะภาคภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำ
แม้บางครั้ง พวกเราจะอยู่หลังฉากก็ตาม
พี่อู๊ด- พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี เคยสอนว่า ชุดทำงานก็ทำงานไป เสร็จภารกิจก็ไปพัก.. ชุดที่จะเอางานไปนำเสนอต่อก็ให้เขาว่ากันไป
“เราก็ทำตามแนวอาจารย์มาตลอดเช่นกัน แต่บางครั้งหากเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องให้ข่าวไปบ้าง..นิดหน่อย”
ฝากน้อง ๆ จงภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำแม้จะเป็น “เบื้องหลังการถ่ายทำ” ก็ตาม แต่พวกเราทุกคนก็ภาคภูมิใจกับงานของพวกเรา โดยเฉพาะงานปราบปรามยาเสพติดที่ทุกคน เสียสละ ทุ่มเท จนกระทั่งพี่น้องเราหลายคนต้องถึงกับ “เสียสละชีวิต” ให้กับการทำงาน
ทิ้งภาระครอบครัวให้กับคนข้างหลัง
ขอฝากความภาคภูมิใจให้กับพวกเรา
“เหล่านักรบนิรนาม” ทุก ๆ คน ครับ