เครื่องแบบขาวกับดาวเงินแปดแฉก

พิธีประดับยศ “ว่าที่ร้อยตำรวจตรี”

วันแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 71 เริ่มต้นแล้ว หลังจากใช้เวลานาน 4 ปี บ่มเพาะเบ้าหลอมความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่ในรั้วสามพราน

ผู้หมวดคนใหม่กำลังจะเริ่มต้นเป็น “ผ้าขาวผืนใหม่” ที่สะอาดบริสุทธิ์

อยากทุกคนให้ย้อนความทรงจำระลึกไปถึงอดีต จากบันทึกของ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรระแงะ จังหวัดนราธิวาส

นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 50 กับเช้าวันที่ 13 ตุลาคม 2536 วันที่เขาและเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจชั้นปีที่ 1 สวมเครื่องแบบปกติขาวครั้งแรกในชีวิต

ทุกคนตื่นเต้นมาก เห็นพวกรุ่นพี่แต่งเครื่องแบบกากีคอแบะ ขัดกระบี่สั้นสีเงิน ที่ด้ามเป็นหัวช้างตัดกับสีกากีของเครื่องแบบที่ประดับด้วยเครื่องหมาย กระดุมเงิน  กนกคอ  ที่บ่า มี “ร”  อยู่เหนือเลขชั้นปี

บอกพรรษาความอาวุโส ตามลำดับ

ในความรู้สึกการเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจปีที่ 1 ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตที่ช่างหอมหวาน สดชื่น หลังจากล้วงเอาแหวนรุ่นของตัวเองให้รุ่นพี่ปี 4 สวมให้ที่นิ้วนาง  

เวลาแห่งความปีติ  ภาคภูมิ  ผ่านไป แทบจะปรับความถี่ไม่ทัน กลับการเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจเต็มตัว

เป็นตำรวจแล้วในวันตำรวจปีนั้น ผ่านพิธีลอดซุ้มกระบี่ที่งดงาม ทรงเกียรติในช่วงเช้า ขัดกระบี่สั้น ถ่ายภาพ กับครอบครัว ด้วยความสุขใจ

ตกบ่าย ปฏิญาณตน สวนสนาม บนลานศรียานนท์ พิธีอันทรงเกียรติ

จัดไว้ให้เฉพาะนักเรียนนายร้อยตำรวจที่ไม่มีเส้นสาย ไม่มีชมรม

กระทั่งกาลเวลาล่วงเลยผ่านไปนานพอที่จะรู้ว่า อย่าคิด อย่าหวังที่จะมากอบโกยกับการเป็นตำรวจอาชีพ

กรมตำรวจ ไม่ได้มีอะไรให้เรา เริ่มต้นจากแหวนก็ของเราเอง ปืน พิมพ์ดีด กุญแจมือ ดาว แค่เกียรติยศก็เพียงพอ

ความฝันอันหอมหวานกับการเป็นตำรวจมันหมดลงแล้วตั้งแต่ก้าวออกจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

จะมีก็แต่ภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ

“ดาวเงินแปดแฉก” บนแหวน ยิ่งสวย ยิ่งแหลมคม ไม่ต่างจากลาภ ยศ คำสรรเสริญ  ความเจ็บแปลบจาก ดาวที่แหลมคมทิ่มแทงเข้าไปในนิ้ว 

เลือดเข้มข้นเปื้อนที่ดาว เตือนสติไม่ให้ หลงระเริงในอำนาจที่คิดว่ามี

เปรียบการหลั่งเลือดสาบานปฏิญาณตนเข้าเป็นตำรวจต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 บนลานฝึกศรียานนท์

ลานฝึกที่เป็นทุกอย่างในความทรงจำ

 

 

RELATED ARTICLES