โอกาส อนาคต และการตัดสินใจ

 

ไม่ได้น้อยใจในโชคชะตา แต่ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป

พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ รองผู้กำกับการแผนกวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ตัดสินใจลาออกไปรับหน้าที่สำคัญให้บริษัทเอกชนแบรนด์ดังระดับโลก

“โอกาส มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับชีวิตผม เวลาที่มีโอกาสเข้ามาในชีวิต ผมจะทุ่มเท และเต็มที่ให้กับทุก ๆโอกาสที่เข้ามา มายด์เซตนี้ มันได้หล่อเลี้ยงผมจนผมเป็นผมในทุกวันนี้” นายตำรวจบอกเหตุผลเมื่อได้รับการทาบทามไปนั่งเป็นผู้บริหาร “เฟซบุ๊ก” ประจำประเทศไทย

เป็นเรื่องยากที่เจ้าตัวจะปฏิเสธ จากการทำงานอยู่เบื้องหลังทำผลงานเข้าตาจากเพจ สืบนครบาล IDMB เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์

เขาเป็นคนกรุงเทพมหานคร จบมัธยมโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สายศิลป์คำนวณ ด้วยความอยากเป็นตำรวจ แอบลงเรียนวิชาเคมีและฟิสิกส์นอกเวลา สอบตรียมทหารปีแรก “อกหัก”  แต่ไม่ยอมแพ้ ทำให้สอบติดเตรียมทหารในที่สุดเป็นรุ่น 43 เลือกเหล่าสามพรานเป็นรุ่น 59

ได้รับทุนรัฐบาลไปเรียนปริญญาโท ด้านอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ปริญญาเอก ด้านอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัย แซมฮูสตัน สเตท ภายในระยะเวลา 2 ปีครั้ง

ถูกบันทึกเป็นตำรวจไทยคนแรกที่ได้ฝึกงานกรมตำรวจเมืองนิวยอร์ก  

มีโอกาสช่วยตำรวจนิวยอร์กวิเคราะห์ข้อมูลอาชญากรรมบนแผนที่เพื่อเสนอจุดติดตั้งกล้อง แก่นายกเทศมนตรีของเมืองนิวยอร์ก นำข้อมูลเหตุการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปวิเคราะห์บนแผนที่หาจุด Hotspot ของการเกิดเหตุด้วย

เติบโตและเรียนรู้เมื่อได้รับโอกาสจาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง “ผมมีวันนี้ไม่ได้ ถ้าไม่มีพี่ก้อง มอบหน้าที่ให้ดูแลภาพลักษณ์ของกองปราบปราม และตำรวจสอบสวนกลาง ทำเพจมีผู้ติดตามมากมายระดับประเทศในการเตือนภัยอาชญากรรม ได้รับการยอมรับจากสังคม ในช่วงนั้น ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ของสังคม เหมือนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการตำรวจไทย” พ.ต.ท.ยิ่งยศย้อนความหลัง

ประทับใจในการช่วยเหลือตัวประกันในเหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช  ทำงานเคียงข้าง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้บังคับการปราบปราม ช่วยรวบรวมข้อมูลตัวประกันตามจุดต่าง ๆ ส่งให้ทีมปฏิบัติการพิเศษหนุมานเข้าช่วยสำเร็จกว่า 100 ชีวิต

หลังจากเหตุการณ์จ่าคลั่งกราดยิงสะเทือนขวัญได้ร่วมกับ Drama Addict  หมอแล็ปแพนด้า  กรมสุขภาพจิต ตำรวจสอบสวนกลาง และอินฟลูเอนเซอร์หลายท่าน ก่อตั้ง ทีม ​HOPE Taskforce  เปรียบเสมือน “ความหวัง” เพื่อช่วยเหลือคนที่จะฆ่าตัวตาย  ได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มต่างประเทศทั้ง Facebook และ TikTok

นำไปสู่การช่วยเหลือคนที่ “คิดสั้น” กว่า 1,000 รายในรอบสามปี

กระนั้นก็ตาม นายตำรวจมีแผลในใจมาตลอดว่า ตำรวจส่วนใหญ่ไม่ค่อยยอมรับตำรวจที่จบปริญญาเอก โดยเฉพาะถ้าจบจากต่างประเทศจะถูกมองว่า ทำงานไม่เป็น ทำเป็นแต่สอนหนังสือ  เขาพยายามลบคำดูถูก กระทั่งได้รับโอกาสจากปรมาจารย์นักสืบ ทั้ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ปลุกปั้นให้ทำงานสืบสวนเมืองหลวง

ใช้เวลาเพียงปีเดียวพิสูจน์ความสามารถได้รับการยอมรับจากปรมาจารย์นักสืบทุกคน เช่น การจับกุม “ปาย-ปัด คู่แฝด ตระเวนข่มขืนเด็กมัธยมต้นพื้นที่จังหวัดราชบุรี” และคดีอื่น ๆอีกมากมาย ปลุกหน่วยงานสืบสวนระดับตำนานอย่าง “สืบนครบาล” กลับมาโลดแล่นในวงการตำรวจอีกครั้ง

นอกจากนี้ ได้เรียนรู้วิชาจิตวิทยานักสืบจาก พล.ต.อ.อิทธิพล พิริยภิญโญ ทั้งจิตวิทยาของคนร้าย และการใช้ชีวิตในวงการตำรวจที่คอยสั่งสอนเตือนสติ

“ตำรวจต้องมีอุดมการณ์ อย่าให้สิ่งไม่ดีมาครอบงำ ให้ตระหนักไว้เสมอว่า ทุกข์ของประชาชนคือทุกข์ของตำรวจ“

สิ่งสำคัญที่สุดของงานตำรวจ พ.ต.ท.ยิ่งยศอยากฝากรุ่นน้องให้ยึดประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะการดำเนินการตามหลักการที่ว่า “ประชาชนคือตำรวจ ตำรวจคือประชาชน” จะช่วยเรากู้คืนศรัทธาความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อตำรวจได้

อุดมการณ์ของเขา คือ การทำให้สังคมไทยดีขึ้น ปลอดภัยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่านิยม การศึกษา สวัสดิการ การประกอบอาชีพ รวมถึง digital literacy

ท้ายที่สุด เจ้าหน้าที่สืบนครบาลทุกคนเคารพในการตัดสินใจของเขา และจะคอยเป็นกำลังใจร่วมเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น  

 

RELATED ARTICLES