เดือนตุลาคมเวียนกลับมาเร็วเกินไปไหม
น้ำตาของพสกนิกรไทยทั่วโลกยังไม่หายทุกโศกจากเหตุการณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต
ทุกหยดยังจดอยู่ในความทรงจำ
วันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559
ขอน้อมรำลึกด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อข้าราชการตำรวจมากมาย
โอกาสนี้ผู้เขียนขออัญเชิญ “พระบรมราโชวาท” น้อมนำมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว “เตือนสติ”การทำงานตามหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 ภายหลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมเพียง 2 สัปดาห์ พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานกระบี่แก่นักเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้สำเร็จการศึกษาออกรับราชการเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร
นับเป็นรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของนักเรียนนายร้อยตำรวจ
ครั้งนั้นพระองค์มีบรมราโชวาทว่า
ข้าพเจ้าได้ฟังและรับข้อความตามที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยแถลงรายงานเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของนักเรียนนายร้อยตำรวจนั้นแล้ว ขอแสดงความชื่นชมด้วยกับผู้ได้สำเร็จการศึกษาจบจามหลักสูตรมารับมอบกระบี่วันนี้
ในโอกาสที่ท่านทั้งหลายจะได้ออกรับราชการเป็นนายร้อยตำรวจต่อไปนั้น ข้าพเจ้าขอฝากข้อเตือนใจบางประการ
ขอให้สำนึกถึงความรับผิดชอบของตำรวจ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
“ตำรวจย่อมมีหน้าที่เป็นผู้บำบัดทุกข์บำรุงสุขของอาณาประชาชนอย่างใกล้ชิด ในการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายและรักษาสันติสุขนั้น นอกจากความรู้ความสามารถในหน้าที่แล้ว ย่อมต้องวางตนให้เป็นแบบอย่างอันดี เพราะความนิยมเคารพเลื่อมใส ยังความอบอุ่นร่มเย็นแก่บรรดาประชาราษฎร์ มีความซื่อสัตย์สุจริต ความยุติธรรมและความกรุณาปราณีประกอบไปด้วย”
คราวใดที่ควรให้ความช่วยเหลือหรือคำแนะนำอันจะเป็นประโยชน์ได้แล้ว ก็ต้องพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ หรือคำตักเตือนเช่นว่านั้นด้วยความเมตตาปราณี
รวมความว่า ควรจะต้องวางตนเหมือนหนึ่งพี่เลี้ยงและผู้รับใช้ประชาชนด้วยในคราวเดียวกัน
“ถ้าท่านได้ยึดมั่นอยู่ในข้อเหล่านี้ และพยายามบำเพ็ญตน และอบรมผู้ที่จะอยู่ในบังคับบัญชาของท่านต่อไปตามนัยที่ว่านี้แล้ว ประโยชน์และความสุขก็จะเกิดแก่ชาติบ้านเมืองเป็นแท้”