“ตอนเด็กอยากเป็นนักข่าว แต่ไม่คิดว่าจะทำได้”

นข่าวสาวน้อยค่าย “มีเดีย ออฟ มีเดียส์” เดินทางไกลจากดินแดนที่ราบสูง

“โบ”กรองทอง จันทะบุรม เกิดในครอบครัวครูอยู่อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด  เริ่มเรียนโรงเรียนบ้านแคน (วันครู 2503) ถึงชั้นประถม 6 แล้วย้ายไปอยู่ในเมืองจบมัธยมปลายโรงเรียนสตรีศึกษา ชอบวิชาศิลปะ ออกแบบตกแต่ง สถาบัตยกรรม

มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ สอบตรงคณะมัณฑศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ตกภาษาอังกฤษ แต่ได้ทุนศิลปะติด 1-5 ของมหาวิทยาลัยบูรพา “ด้วยความที่อยู่บ้านนอก ไม่มีอินเตอร์เน็ต รู้อีกทีตัวเองมีชื่อติดและให้ไปรายงานตัววันนั้น โทรไปมหาวิทยาลัย เขาบอกว่า เราไม่มา ถือว่า สละสิทธิ์แล้ว” เธอเสียงเศร้า

ถึงกระนั้นก็ตาม เธอยังสอบติดคณะคุรุศาสตร์ ปฐมวัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และคณะเทคโนโลยีออกแบบตกแต่งภายใน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา แต่สุดท้ายแม่ไม่ให้เรียน ทั้งที่สวนสุนันทาทำเรื่องมอบตัว ทำบัตรนักศึกษาแล้ว

โบบอกว่า แม่เป็นห่วง เราอยู่บ้านนอกมาตั้งแต่เกิด เข้ามาเรียนกรุงเทพฯคนเดียว ไม่มีญาติอยู่เลยมันลำบาก แถมมีโรคประจำตัวเป็นลมพิษ ถึงไม่อยากให้มาเรียน

สุดท้าย เด็กสาวคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะเรียนอะไรเหมือนชีวิตหักเหเปลี่ยนกะทันหัน ต้องลงเรียนสิ่งไม่ชอบเป็นนิสิตคณะเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ไปเรียนแบบไม่มีความสุข “ตอนแรกจะออกอยู่แล้ว แต่พอได้ตำแหน่งดาวคณะต้องช่วยเขาทำกิจกรรม ทำให้สนุกบ้าง พอกลับไปเรียนก็ไม่มีความสุขอีก อยู่ไม่ได้ ก็ต้องออก”

เธอว่า คิดอยู่นานจะเรียนสายไหนดีเพราะออกมาเปลี่ยนทางเดิน เริ่มถามตัวเอง รู้ว่า ชอบเรียนภาษาไทย อยากเป็นนักข่าว ผู้ประกาศข่าวมาก่อนสมัยเด็ก เพราะชอบนั่งดูข่าวโทรทัศน์ มีคณะคุรุศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับภาษาไทย แต่จบแล้วไปเป็นครู กับคณะมนุษยศาสตร์ เป็นได้หลายอย่าง ถึงเลือกมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดิม

แล้วสิ่งที่นิสิตสาวเลือกก็ไม่ผิด เมื่อทางคณะจัดวรรณกรรมสัญจร เชิญนักเขียนเรื่องสั้น กวีนิพนธ์ นักเขียนสารคดี นักแต่งเพลง นักข่าว แบ่งกลุ่มพูดคุยกัน เธอไปเจอมนตรี อุดมพงษ์ ทีมข่าวสามมิติ ศิษย์เก่าสถาบันเดียวกันมาถ่ายทอดประสบการณ์เล่าเรื่องราวชีวิตเคยผ่านคณะเทคโนโลยีการอาหารมาก่อนหน้าเหมือนกันแล้วถึงเปลี่ยนสายมาอยู่มนุษยศาสตร์ เป็นแรงบันดาลใจที่โบต้องเจริญรอยตามให้ได้

ปีถัดมานอกจากมนตรีเดินทางไปร่วมกิจกรรมแล้ว คราวนี้มี ชนะชัย แก้วผาง นักข่าวจากประเด็นเด็ด7 สี มาเล่าว่า เป็นนักศึกษาฝึกงานมาก่อนเข้าทำงานเลยหลังเรียนจบ ทำให้โบมีความฝัน อยากทำอะไรให้เหมือนเขา

ครั้งนั้น ชนะชัยนำเอาทีมข่าวขึ้นไปร่วมกิจกรรมด้วย เปิดโอกาสให้เหล่านิสิตหนุ่มสาวจำลองเหตุการณ์ทำข่าวเอง จับไมค์พูดหน้ากล้อง พอทำแล้วเด็กสาวยิ่งรู้สึกชอบกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเลือกเดินบนเส้นทางสื่อมวลชน

เธอเลือกฝึกงาน “รายการเช้านี้ที่หมอชิต” ที่ชัยชนะนำให้มาลองดูว่า การลงสนามจริงกับนักข่าวรุ่นพี่สามารถทำอะไรได้บ้าง สัปดาห์แรกเจอกับเหตุการณ์ตึกถล่มย่านปทุมธานีทันที “ตื่นเต้นมากไม่เคยเจอมาก่อน ได้ช่วยเก็บข้อมูล ท่ามกลางนักข่าวหลายสังกัดเต็มที่เกิดเหตุหมด มีส่วนทำให้หนูได้เรียนรู้ขึ้น ไม่นานเขาก็ปล่อยให้หนูไปทำคนเดียวเวลานักข่าวลา หรือไม่มีคนไปทำ หนูก็ต้องแนะนำตัวว่าฝึกงานอยู่นะจนเริ่มคล่องขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นข่าวแถลงมากกว่า”

ใช้เวลาฝึกงาน 4 เดือนกลับไปทำเรื่องจบมหาวิทยาลัย ทิ้งท้ายก่อนลา โบเล่าว่า หยอดความประทับใจไว้กับผู้อำนวยการฝ่ายข่าวของมีเดีย ออฟ มีเดียส์ ยอมรับว่า เราอยากเป็นนักข่าวที่นี่ มันเป็นเหมือนความฝัน เราพอจะช่วยงานที่นี่ได้ไหม เขาแนะนำว่า พอจบแล้วก็มาลองดูได้ เลยกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมข่าวอาชญากรรมค่ายมีเดีย ออฟ มีเดียส์ ป้อนสู่รายการเช้านี้ที่หมอชิต ประเด็นเด็ด 7 สี และเกาะเจาะติด เดินตามความฝันสำเร็จ

“ตอนเด็กอยากเป็นนักข่าว แต่ไม่คิดว่าจะทำได้ เป็นคนชอบดูข่าว เห็นผู้ประกาศสวยกว่าดารา อยากเป็นบ้าง แต่คิดว่ายากเลยไม่ได้จริงจัง กระทั่งมีโอกาสถือว่าเดินตามความฝันแล้ว” โบว่า ส่วนอนาคตเธอรับอยากจะทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวให้ดีขึ้นกว่านี้ ประสบการณ์เรายังน้อย ไม่ได้เรียนมาสายนิเทศศาสตร์โดยตรงจึงจำเป็นต้องเรียนรู้เองในภาคสนามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไป

RELATED ARTICLES