พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยผลการสกัดกั้นจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดที่ถูกลักลอบซุกซ่อนมากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านสายการบินจากต่างประเทศ รวมทั้งการเตรียมส่งออกนอกประเทศในห้วงที่ผ่านมาว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้กวาดล้างจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดในทุกมิติให้มีประสิทธิภาพ ก่อนสั่งการให้ พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 จัดกำลังสืบสวนตรวจตราจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดที่คอยปรับเปลี่ยนวิธีด้วยการซุกซ่อนลำเลียงขนส่งยาเสพติดในรูปแบบต่างๆ ผ่านระบบโลจิสติกส์ อาทิ พัสดุภัณฑ์ ไปรษณีย์ ทางท่าเรือ และทางอากาศ เพื่อให้ก้าวตามทันขบวนการเหล่านี้ ไม่ใช่เป็นแค่การจับกุมตามเส้นทางถนนที่ขบวนการยาเสพติดได้ใช้ลำเลียงเป็นหลักเท่านั้น ต้องทำควบคู่กันไปในทุกมิติของการปราบปรามไม่ว่าจะลักลอบลำเลียงด้วยวิธีใดก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถติดตามเฝ้าระวังและสกัดจับได้ในทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง
เจ้าตัวยืนยันว่า ที่ผ่านมาตำรวจหน่วยปราบปรามยาเสพติดสุวรรณภูมิประสานความร่วมมือภายใต้โครงการด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติ หรือหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดท่าอากาศยาน หรือ Airport Interdictoin Task Force (AITF) ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันปละปราบปรามยาเสพติด กรมศุลกากร ศูนย์รักษาความปลอดภัย จนสามารถนำไปสู่การสกัดกั้นยาเสพติดในห้วงเดือนตุลาคม 2665 – ปัจจุบัน ได้หลายรายการ อาทิ ไอซ์ 12 กิโลกรัม ยาบ้า 11,823 เม็ด เคตามีน 1.7 กิโลกรัม โคเคน 5.3 กิโลกรัม เฮโรอีน 4.2 กิโลกรัม และยาสำหรับใช้ทางการแพทย์มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง กล่อมประสาท และยานอนหลับ 79,200 เม็ด มีทั้งนำเข้ามาจากต้นทาง เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ และประเทศเอธิโอเปีย ขณะที่การส่งออกพบปลายทางไปยังฮ่องกง ไตหวัน เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย เลี่ยงการถูกจับด้วยการซุกซ่อนไปกับเครื่องครัว ถุงขนม หมอนพื้นบ้าน ตู้ลำโพง กระเป๋าผ้าพื้นเมืองชาวเขา และถุงแป้งทำขนม
