รวบเซียนพระเครื่องกำมะลอขายผ่านโลกออนไลน์

 

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยก่ารศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชา่ติ ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก มีชุดลาดตระเวนออนไลน์ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ออกลาดตระเวนออนไลน์จนเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่เคยถูกคนร้ายชื่อเซียนฟลุ๊ค มีพฤติการณ์ก่อเหตุสร้างเฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ เข้าไปโพต์หลอกเช่าบูชาพระเครื่องในกลุ่มต่างๆ กว่า 50 กลุ่ม พื้นที่อีส่นตอนใต้ ต่อเนื่องเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2560 มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5 ล้านบาท

ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบ่าล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ 5 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชา่ติ มอบหมาย พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสิบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พร้อมกำลังจับกุมตัวนายภัทระ หรือฟลุ๊ค ฤทธาภินันท์ อายุ 25 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 181 หมู่ 9 ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ภายในซอยวัดร่าง บ้านกุดแห่ ถนนชยางกูร ตำบลกุดแห่ อำเภอลิงนกทา จังหวัดยโสธร

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า เรียนจนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2560 ขณะนั้นอายุประมาณ 19 ปี ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพระเครื่องใหม่สายภาคอีสานใต้ เคยมีเฟซบุ๊กสำหรับโพสต์ประกาศเช่าบูชาพระเครื่องส่งพระให้ลูกค้าจริง ชื่อบัญชี “ ชรัณ มุกธวัตร” มีเครดิต มีคนติดตาม มีรายได้จากการปล่อยเช่าบูชาพระเครื่องกว่าเดือนละ 100,000 ถึง 200,000 บาท แต่เนื่องจากติดเล่นเสียการพนันตามบ่อนวิ่งไพ่ป๊อกวิ่งในพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถมีเงินมาหมุนทำการเช่าซื้อขายพระได้ จึงใช้เครดิตการเช่าซื้อขายพระที่ตนพอมีชื่อเสียงทำการหลอกเช่าบูชาพระเครื่องกับลูกค้าที่สนใจในกลุ่มเฟซบุ๊กจนมีเงินก้อนพอใช้ก็จะหยุดโกงเพื่อให้เรื่องซา และกลับมาทำใหม่อีกเช่นเดินมวนไปที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยมีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเดือนละประมาณ 20 ราย มีรายได้จากผู้เสียหายที่หลงเชื่อรายละ 5,000 ถึง 400,000 บาท ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2560 มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5,000,000 (ห้าล้านบาท) เงินที่ได้จากการก่อเหตุรับว่านำไปใช้จ่ายในชีวิตและเล่นพนันตามบ่อนวิ่งไพ่ป๊อก ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติการประทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบข้อมูลประวัติคดี ในฐานข้อมูลอีกจำนวน 9 คดี


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลกล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนว่า ในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติการโอนเงิน หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ เสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่างๆ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

RELATED ARTICLES