ตำรวจ ปส.ทลายเครือข่ายยานรกทั่วประเทศยึดทรัพย์กว่า 24 ล้านบาท

 

พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในนฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด  พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด  พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.เอกภพ อินทวิวัฒน์ ผู้บังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด   พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 และ พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดเดินหน้าทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่พบว่าสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันเครือข่ายมีความพยายามอย่างหนักในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก ซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าทางการเกษตร หรือแม้แต่การดัดแปลงช่องลับของรถซุกซ่อนยาเสพติด ส่วนมากจะถูกลำเลียงมาจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่อเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศ ก่อนจะกระจายไปยังเครือข่ายรายย่อย ล่าสุด ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสามารถทลายได้หลายเครือข่ายรวมผู้ต้องหา 20 คน ของกลางเป็น ยาบ้า 15.5 ล้านเม็ด ไอซ์ 880 กิโลกรัม คีตามีน 450 กิโลกรัม รถยนต์ 9 คัน มือถือ 11 เครื่อง และยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท แยกเป็น 7 คดีดังนี้

คดีแรก  ร่วมกันจับกุมตัว 4 ผู้ต้องหาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง อยู่ในอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ใช้รถกระบะจำนวน 4 คัน เพื่อสำรวจเส้นทางและขนยาเสพติด นำผักมาวางปิดบังยาเสพติดไว้เพื่ออำพราง ควบคุมได้บริเวณด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นได้ติดตามไปจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งพร้อมของกลาง ไอซ์ 600 กิโลกรัม  ยาบ้า 12 ล้านเม็ด คีตามีน 400 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง ถกระบะ 4 คัน และตรวจยึดเงินสดรวม 5 หมื่นบาท เตรียมลำเลียงยาเสพติดไปส่งมอบให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง

คดีที่ 2 สืบสวนขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี  หาความเชื่อมโยงติดตามตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงิน ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องในเครือข่ายได้อีก 4 ราย ยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายไว้ตรวจสอบ หลายรายการ อาทิเช่น บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พร้อมที่ดิน 3 หลัง ราคาประมาณ 20 ล้านบาท และที่ดินเปล่า 1 แปลง รวม 23 ล้านบาท คดีที่ 3  วิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจยึดยาบ้า 8 กระสอบ รวม 2,000,000 เม็ด บริเวณไร่มันในเขตพื้นที่หมู่ 5 บ้านโคกสว่าง ตำบลหนองแสง อำเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี ยึดรถกระบะ 2 คัน

คดีที่ 4  สืบสวนขยายผลจากการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดจังหวัดปทุมธานี จับกุมผู้ต้องหา 4 รายที่บริเวณบ้านเลขที่ 88/6 ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยคีตามีน 31 กิโลกรัม และจับกุมอีก 2 รายที่บริเวณโรงแรมไนซ์อินน์ ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี พร้อมคีตามีน ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์รวม 15 กิโลกรัม คดีที่ 5  สืบสวนหาข่าวกลุ่มเครือข่ายเป็นผู้หญิงวัยรุ่น 3 คน ลักลอบลำเลียงขนยาเสพติดจากภาคเหนือลงสู่พื้นที่ภาคใต้ แฝงตัวเป็นผู้โดยสาร ซุกซ่อนอำพรางยาเสพติดในกระเป๋าเดินทาง และเดินทางโดยรถทัวร์จากกรุงเทพมหานครไปยัง จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา ก่อนจนมุมอาคารผู้โดยสารขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร พร้อมยาบ้า 3 แสนเม็ด

คดีที่ 6 จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ลำเลียงยาเสพติดจากบ้านห้วยบอน ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งลูกค้าก่อนจะนำรถไปจอดทิ้งไว้ข้างถนนเส้นทาง ฝาง – แม่สรวย  พร้อมไอซ์ 281 กิโลกรัม ถูกสกัดจับได้ที่ด่านตรวจแก่งปันเต้า ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ คดีสุดท้ายจับกุมชายอายุ 43 ปี บริเวณด่านตรวจเกาะหม้อแกง ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ขณะขับรถกระบะลำเลียงรวม 1,436,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบอาหารสัตว์กระจายซุกซ่อนอยู่ในท้ายกระบะถูกสกัดได้บริเวณด่านตรวจความมั่นคงเกาะหม้อแกง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

RELATED ARTICLES