ผบ.ตร.ลงเยี่ยมโรงพักนครชุมและโรงเรียน ตชด.ในพื้นที่

ที่สถานีตำรวจนครบาลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจ สอบถามถึงสภาพการทำงาน เป็นแนวทางในการช่วยแก้ไขข้อขัดข้องต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานบริการดูแลพี่น้องประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตำรวจมีขวัญกำลังใจที่ดี  มี พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6  พล.ต.ต.นิคม เครือนพรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และข้าราชการตำรวจในพื้นที่ให้การต้อนรับและร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยน รับฟังนโยบายจากด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์รับฟังรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของสถานีตำรวจภูธรนครชุมโรงพักขนาดเล็ก มี พ.ต.ท.สุรศิลป์ สมศรี เป็นสารวัตรหัวหน้าสถานี  กำลังพล 24 นายจากอัตราที่พึงมีอนุญาต 37 นาย ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยให้ประชาชนในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้าน หน่วยงานราชการต่าง ๆ พื้นที่อุทยานแห่งชาติชาติตระการ พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูขัด ก่อนสอบถามถึงจำนวนสถานศึกษาในพื้นที่  พบมีโรงเรียน 9 แห่ง ทั้งนี้ได้มอบเงินเพื่อให้ตำรวจในสังกัดนำไปใช้ทำงาน และจัดเลี้ยงปีใหม่แก่ตำรวจและครอบครัวตำรวจในโรงพักด้วย

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า สถานีตำรวจ หรือโรงพัก ถือเป็นฟันเฟืองหลักจักรสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เป็นหน่วยงานแขนขาที่สำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ ตนสั่งการกำชับทั่วประเทศให้ดูแลกำลังพลในโรงพัก ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัย มีทักษะการปฏิบัติหน้าที่ มีอุปกรณ์เครื่องมือที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันสมัย  เร็ว ๆ นี้ จะมีการส่งมอบปืนไฟฟ้าให้ทุกโรงพัก 1,484 สถานีทั่วประเทศไปใช้งาน พร้อมกำชับให้ทุกกองบัญชาการไปจัดหาอุปกรณ์ไม้ง่ามระงับคนคลุ้มคลั่งเตรียมไว้ใช้งานในโรงพักให้พร้อม เพราะเหตุการณ์คนคลุ้มคลั่งเกิดขึ้นได้เสมอ รวมทั้งควรสร้างทักษะให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนมีความรู้เรื่องการเอาตัวรอดในเหตุวิกฤติต่าง ๆ โดยเฉพาะทักษะ หนี ซ่อน สู้ เพื่อความปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

“ที่สำคัญคือต้องดูแลขวัญกำลังใจของตำรวจในโรงพัก เบี้ยเลี้ยงห้ามตกหล่น ห้ามหาย ต้องไปดูไปตรวจสอบความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติงานอย่างมีขวัญกำลังใจมีค่าตอบแทนที่เหมาะสม โดยในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดูแลแก้ปัญหาในเชิงนโยบาย ล่าสุดได้ทำโครงการ “ธนาคารตำรวจ” เป็นโครงการทำแหล่งปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำได้รับการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์  มีวัตถุประสงค์ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินที่พอกพูนของตำรวจช่วยให้ตำรวจ และครอบครัวตำรวจมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อคุณภาพการทำงานที่ดี” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ระบุ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวด้วยว่า ตำรวจมีปัญหาเรื่องกำลังพลที่ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะงานในโรงพัก ในปีนี้ได้เปิดรับนักเรียนนายสิบตำรวจ 5,000 นาย เป็นกำลังพลใหม่เข้ามาเสริมการปฏิบัติงานในโรงพัก แต่กลุ่มนี้ต้องไปเรียนและฝึกระยะเวลา 1 ปี ครึ่งถึงจะพร้อมออกมาปฏิบัติหน้าที่ หลังจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงทำให้งดเว้นการเปิดรับนักเรียนนายสิบมาช่วงหนึ่ง ส่งผลให้กำลังพลตำรวจโรงพัก โดยเฉพาะในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล  ตำรวจภูธรภาค 1  ภาค 2 และภาค 7 ขาดแคลน มีอัตราการครองตำแหน่งแค่ 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ขณะที่ประชากรในพื้นที่มีเพิ่มขึ้น ดังนั้น ปีนี้มีแนวทางในการรับทหารเกณฑ์ปลดประจำการแล้วเข้ามาเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจในสัดส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มนี้จะช่วยร่นระยะเวลาในการฝึก ทำให้สามารถผลิตตำรวจที่มีทักษะความพร้อมออกมาปฏิบัติหน้าที่ในโรงพักได้เร็วขึ้น และลดการโยกย้ายกลับภูมิลำเนาเพราะกลุ่มนี้เน้นการรับทหารเกณฑ์จากคนพื้นที่

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ส่งกำลังตำรวจเข้าไปรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนแทนครูเวรว่า เรื่องนี้มอบหมาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรมไปดูแล้ว  หน้าที่ของตำรวจคือ การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทุกคน เราคงไม่สามารถเข้าไปดูแลหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นพิเศษได้  การดูแลความปลอดภัยโรงเรียน ตำรวจเราจะเข้าเป็นช่วยดูในลักษณะของการให้คำปรึกษาด้านการดูแลความปลอดภัย ต้องร่วมมือกับโรงเรียน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ภาคสังคมในการช่วยกันดูแล วางระบบการรักษาความปลอดภัย วางระบบกล้องวงจรปิด การประสานงานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียน เพิ่มความถี่ในการออกตรวจ ไม่ใช่ให้ตำรวจเข้าไปทำหน้าที่แทน

ต่อมาคณะของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอาทรอุทิศ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มอบของใช้จำเป็น และเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ครูตำรวจตระเวนชายแดนและบุคลากรในโรงเรียนก่อนที่จะไปเยี่ยมเยียนนักเรียนในโรงเรียนมีอยู่ 44 คน เลี้ยงอาหารกลางวัน เมนูข้าวหมูแดง และร่วมตักอาหารใส่ถาดหลุม และเสิร์ฟอาหารให้แก่เด็ก ๆ ด้วยตัวเอง สร้างความตื่นเต้น เรียกรอยยิ้มสร้างความสุข ให้แก่เด็ก ๆ อย่างมาก โพร้อมได้มอบเงินเพื่อไว้จัดเลี้ยงไอศครีมแก่เด็ก ๆ ในโรงเรียนด้วย

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ได้ตรวจเยี่ยมดูการจัดห้องเรียน ห้องพยาบาล ศูนย์ดิจิทัลชุมชน และพื้นที่แปลงเกษตรภายในโรงเรียน รับฟังแนวทางการเรียนการสอน การพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กนักเรียนและชุมชนโดยรอบ ก่อนร่วมรับประทานอาหารกลางวัน พูดคุย รับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับตำรวจภาค 6 และคณะครูตำรวจตระเวนชายแดนอย่างเป็นกันเอง จากนั้นกล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาครูตำรวจตระเวนชายแดนให้มีประสิทธิภาพ ไปศึกษาแก้ไขระเบียบให้สามารถรับผู้มีวุฒิปริญญาตรีจากบุคคลภาคนอกเข้ามาเป็นครูตำรวจตระเวนชายแดนได้ เพื่อยกระดับคุณภาพของครู ตำรวจตระเวนชายแดนและโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่มี 222 แห่งทั่วประเทศ

RELATED ARTICLES