“ไอ้โม่ง” ที่อยู่เบื้องหลังความผิดพลาดในการโยกย้าย พ.ต.อ.กันตพงษ์ นิลขำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้ากรุเป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ
เขา คือ ใคร ทำไมกล้าสลับไพ่จัดแจงจับโยกย้ายคนทำงานวุ่นวายกลายเป็นประเด็นร้อน
เมื่อไม่ใช่ทีมงาน อาหารจีนมื้อเช้า คลุกเคล้าปาท่องโก๋น่าจะมี “อิทธิพลใหญ่โต” พอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไว้วางใจให้จัดเมนู “ยำโผ”
สุดท้ายยังคงตอกย้ำคำว่า อำนาจเหนือความชอบธรรม แก่ผู้ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ก่อนเก็บกวาดโต๊ะทำงานย้ายระเนนระนาดแบบไม่ทันรู้ตัว
บทเรียนความบกพร่องในคำสั่งย้าย “ผิดฝา” ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบาล ลูกชาย พล.ท.ภุชงค์ นิลขำ อดีตนายพลทหารน้ำดีแห่งนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 5
ถามว่า มีคนรับปากจะแก้ไขให้ได้จริงหรือ
แล้วอีกหลายคนที่ไม่กระเหี้ยนกระหือรือ ร้องแรกแหกกระเชอ โหยหาความเป็นธรรม ชะตากรรมของพวกเขาจะเป็นอย่างไร
ครั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรกและคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่บ่อนทำลายขวัญกำลังใจคนทำงาน
เป็นการบ้านชิ้นโตของ “ผู้นำสีกากี” ว่าจะมีวิธีแบบไหนไม่ให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างในทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งโยกย้าย
หลักการที่ตั้งขึ้นเพื่อประหัตประหาร คนไร้เส้นสาย คนไม่มีนายหนุนหลัง กำลังทำให้องค์การตำรวจผุพังเป็น “มะเร็งร้าย” ลุกลามเรื้อรังมานานหลายยุค
ปลุก “หลักกู” อุ้มชูพวกพ้องลูกน้องและเพื่อนร่วมรุ่นที่เอาแต่วิ่งวุ่นฝุ่นตลบไม่จบไม่สิ้นด้วย “ลิ้นสอพลอ” แทบไม่ได้เสี่ยงเอาชีวิตล่อลูกปืน ยืนกลางฝน อดทนอยู่กลางแดด หรือทุ่มเททำงานร้อยแปดแผดเสียงต่อกรเหล่าอาชญากรทุกรูปแบบ
พวกนี้แหละเป็น “อีแอบ” เหลือบไรตัวแสบที่เกาะกินเลือดและจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
รอจังหวะเปิดโอกาสเสียบแซงขึ้นเหนือเพื่อนในรุ่น
อาศัยลูกชุลมุนสวมบท “ไอ้โม่ง” ทำร้ายองค์กรตัวเอง !!!