วันที่ 14 มี.ค.67 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สั่งการให้ พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผู้กำกับการ4กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคนำกำลังเข้าตรวจค้น บ้านพักหลังหนึ่งใน ตำบลบางโทรัด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร พบ น.ส.วรรณิสา (สงวนนามสกุล) แสดงตนเป็นเจ้าบ้าน พบผลิตภัณฑ์เยลลี่องุ่นเคียวโฮ สีม่วง จำนวน 32,880 ชิ้น, เยลลี่องุ่นเคียวโฮ สีเขียว จำนวน 8,400 ชิ้น รวม 41,280 ชิ้น มูลค่ากว่า 380,000 บาท พร้อมตรวจยึดขนมอื่นๆ ที่ต้องสงสัยว่าเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.อาหาร รวม 19 รายการ 
ทั้งนี้ขนมเยลลี่องุ่นเคียวโฮออนไลน์ หรือที่เรียกว่า “ขนมเยลลี่องุ่นเคียวโฮ” กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นนักเรียน และวัยรุ่น โดยมีการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการซื้อมาบริโภค รีวิวผ่านสื่อโซเชียล เพื่อจำหน่ายขนมเลียนแบบเยลลี่องุ่นในประเทศญี่ปุ่น-เกาหลี เป็นเยลลี่ที่บรรจุในถุง คล้ายถุงมือยาง หรือลูกโป่งมัดเป็นลูกกลม แต่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีเลขสารบบอาหาร (อย.) จึงไม่สามารถทราบถึงมาตราฐาน 
สอบสวน น.ส.วรรณิสา ให้การยอมรับว่า ขนมดังกล่าวไม่แสดงเลขสารบบอาหาร (ไม่ผ่าน อย.) แต่มีการโฆษณาขายผ่านเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นแม่ค้าทั่วไป ที่จะมาซื้อครั้งละมากๆ เพื่อนำไปขายแก่ผู้บริโภคต่ออีกทอดหนึ่ง โดยตนไปซื้อขนมมาจากแหล่งขายย่านสำเพ็ง ราคาลังละประมาณ 1,400 บาท และนำมาขายต่อราคาลังละประมาณ 1,700 บาท บาท โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 1 เดือน
หลังจากนี้จะนำขนมที่ตรวจยึด ส่งตรวจวิเคราะห์หาสารต้องห้าม หากพบก็จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร 2522 ฐาน “จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์” ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
ด้าน พล.ต.ต.วิทยา เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์อาหารจะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือสาธารณสุขจังหวัด หากไม่มีเลขสารบบอาหารอย่าซื้อมารับประทานโดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตราย เนื่องจากไม่ทราบแหล่งผลิตที่ใดและแหล่งผลิตนั้นมีมาตรฐานตามที่กำหนดไว้หรือไม่ และหากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาดด้วย
