วันที่16มี.ค.67 พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผู้บังคับการปราบปราม ปฏิบัติราชการ/กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผู้กำกับการ2กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง3กองกำกับการ2กองบังคับการตำรวจทางหลวง นำกำลังจับกุม นายปรีชาฯ อายุ 42 ปี ,นายเนติพงษ์ฯ อายุ 28 ปี ,นายภานุศักดิ์ฯ อายุ 15 ปี พร้อมของกลาง เหล็กรางรถไฟที่ถูกตัดแล้วทั้งหมด จำนวน 261 เส้น ได้ที่ บริเวณ ทล.4 (ถ.เพชรเกษม) กม.343 ขาล่องใต้ ตตำบลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ให้ตรวจสอบรถบรรทุก6ล้อต้องสงสัยว่า บรรทุกเหล็กเส้น (รางรถไฟ) ของการรถไฟ ซึ่งได้มีการร้องทุกข์ไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรบางสะพาน กระทั่งพบรถบรรทุกต้องสงสัย จึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ พบนายปรีชาฯ ผู้ขับขี่ นายเนติพงษ์ฯ และ นายภานุศักดิ์ฯ ผู้โดยสาร จากการตรวจสอบพบ เหล็กเส้น (รางรถไฟ) อยู่ท้ายรถบรรทุก6ล้อคันดังกล่าว ซึ่งพนักงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟ ได้ยืนยันว่าเป็นเหล็กเส้น (รางรถไฟ) ของการรถไฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวนนายปรีชาฯ ให้การว่า นายจ้างได้ให้ขับรถยนต์ไปรับงานบรรทุก โดยให้ประสานงานกับนายเนติพงษ์ฯ และให้นายภานุศักดิ์ฯ นั่งโดยสารมากับตนเป็นเพื่อนคุย เพื่อนำเหล็กเส้นขึ้นรถบรรทุกแล้วนำไปส่งที่หมู่บ้านโคกตาหอม ส่วนนายเนติพงษ์ฯ ให้การว่า ได้รับการติดต่อจาก นายวัตรฯ ให้ไปกับรถยนต์บรรทุกเพื่อบอกทางไปหมู่บ้านโคกตาหอมจะได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 1,000-2,000 บาท ทำมาแล้ว 1 ครั้ง โดยได้นำไปส่งให้ที่อู่แห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่4 ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร” ก่อนควบคุมตัวนายปรีชา และนายเนติพงษ์ พร้อมด้วยของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรธงชัย ดำเนินคดีต่อไป ส่วนนายภานุศักดิ์ฯ ซึ่งเป็นเยาวชนได้แยกบันทึกจับกุมส่งศาลเยาวชน และจะขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป
