วันที่3 เม.ย.67 พล.ต.ต.คงสิทธิ์ เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง สั่งการ พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผู้กำกับการ2กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง ผู้กำกับการ2กองบังคับการตำรวจทางหลวง สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง2กองกำกับการ2กองบังคับการตำรวจทางหลวง นำกำลังจับกุม นายสามารถ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี กับ นายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานหรือรับของโจร” และ นายอนุชา 41 (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดหล่มสัก ข้อหา “ร่วมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ และ ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมตัวทั้งหมดได้ที่ จุดตรวจอยู่บริเวณ กม.83-84 ถนนพระราม2 ตำบลวังมะนาว อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี
สืบเนื่องจากขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังตั้งจุดตรวจอยู่บริเวณดังกล่าว ได้สังเกตเห็นรถเก๋งคันหนึ่ง ติดแผ่นป้ายเสียภาษีประจำปีหมดอายุจึงเรียกตรวจสอบ แต่ปรากฎว่า นายสามารถ คนขับ พร้อมกับนายอนุชา และ นายสมชาย ที่นั่งโดยสารมาด้วยกันนั้นมีท่าทีพิรุธ จึงทำการตรวจสอบประวัติในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนพบว่า นายสามารถ กับ นายสมชาย มีหมายจับเกี่ยวข้องกับคดี ฆาตกรรมเสี่ยหมาด เจ้าของสนามไก่ชนที่ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ที่ถูกกลุ่มคนร้ายฆ่าฝังดิน ขณะที่ นายอนุชา เองก็มีหมายจับในคดี อุ้มเรียกค่าไถ่ในพื้นที่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงทำการจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวน นายสามารถ ให้การยอมรับว่า ตนเองเป็นคนที่ได้ติดต่อรับซื้อขายรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ของเสี่ยหมาด ก่อนนำไปขายต่อและได้พบว่ารถยนต์ได้ถูกนำไปใช้ในพื้นที่จังหวัดสกลนครตามที่ปรากฎเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ขณะที่ นายสมชาย ยอมรับว่า ตนเองเป็นเจ้าของบัญชีที่ใช้รับโอนเงินในการซื้อขายรถยนต์ของเสี่ยหมาด ส่วนนายอนุชา ยอมรับว่า เคยร่วมกับเพื่อนอีกสองคนรับจ้างอุ้มข่มขู่ทวงหนี้ในพื้นที่ อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแต่ละท้องที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป