วันที่ 25 เม.ย.พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มคร้องผู้บริโภค พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มคร้องผู้บริโภค พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผู้กำกับการ4กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มคร้องผู้บริโภค พร้อมด้วย ภก.วีรชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลทลายโกดังเก็บเครื่องสำอางปลอมยี่ห้อดัง และบุกจับโรงงานผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนผสมสารไซบูทรามีน
พล.ต.ต.วิทยา เปิดเผยว่า ก่อนหน้าได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายที่สั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่สินค้าที่ได้รับกลับไม่ได้คุณภาพ จึงติดตามและตรวจสอบพบว่ามีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นสินค้าที่ไม่มีเลขจดแจ้งและไม่แสดงฉลากภาษาไทย และขายในราคาถูกกว่าท้องตลาด จึงสืบสวนจนทราบถึงสถานที่จัดเก็บสินค้าและกระจายสินค้า ก่อนนำหมายค้นศาลแขวงสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งในต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นพบของกลางสินค้าประเภทต่างๆกว่า 60 รายการ อาทิเช่น ยาสีฟัน ครีมบำรุงผิว และเครื่องสำอาง แยกเป็นเครื่องสำอางปลอม 2 รายการ เครื่องสำอางต้องสงสัย 18 รายการ และไม่มีเลขที่ใบรับจดแจ้งและไม่แสดงฉลากภาษาไทย จำนวน 32 รายการ รวมของกลางทั้งหมดประมาณ 31,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 20 ล้าน และพบหญิงคนหนึ่งแสดงตัวเป็นพบผู้ดูแลสถานที่จัดเก็บสินค้าดังกล่าว จากการสอบสวน ผู้ดูแลสถานที่ให้การว่า ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของนายช่านหลิง ชิว (Mr.QIU CHAN LIN) สัญชาติจีน นายทุนที่สั่งสินค้าที่เป็นกระแสและกำลังเป็นที่นิยมในสื่อออนไลน์เข้ามาจากประเทศจีน จากนั้นจึงนำสินค้ามาเก็บไว้ โดยนายทุนชาวจีนจะเปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อใช้โฆษณาสินค้าเป็นจำนวนมากถึง 44 ร้านค้า เพื่อกระจายการโฆษณา โดยมีการควบคุมบริหารจัดการในประเทศจีน ทำมาแล้วประมาณ 1 ปี มียอดการส่งสินค้าถึง 2,000-3,000 ชิ้นต่อวัน รายรับอาจสูงถึงกว่าร้อยล้านบาทต่อปี ก็จะได้ติดตามตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ร่วมทลายโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนผสมสารไซบูทรามีน มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ในพื้นที่ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โดยสารไซบูทรามีน นั้นเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต การขยายผลสามารถตรวจค้นพื้นที่จัดเก็บสินค้าอีก 3 แห่งที่จังหวัดปทุมธานี สมุทรปราการและจังหวัดสมุทรสาคร พบผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ โดยให้การรับสารว่านำสารไซบูทรามีน มาจากประเทศเพื่อนบ้าน นำมาผสมในผลิตภัณฑ์จริง
ด้าน เภสัชกรวีรชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เตรียมหลักฐานทั้งหมดยื่นให้กับแอพลิชั่นตัวแทนจำหน่ายสินค้า เสนอให้ปิดร้านค้าหรือช่องทางจำหน่ายสินค้าของผู้กระทำความผิด ทุกช่องทาง และขึ้นแบล็กลิส ซึ่งตำรวจสามารถขอออกหมายแดง จากอินเตอร์โพลล์ ติดตามตัวนายทุนจีนดังกล่าวดำเนินคดีตามขั้นตอนองกฎหมายได้
“สำหรับการดำเนินคดี พบเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า เอาบุคคลที่ไม่รัก พ.ร.บ.เครื่องสำอาง ซึ่งตรงส่วนนี้พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร จำนวนหลายข้อหา มีทำโทษจำและโทษปรับ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยว่าปลอมอื่น ๆ อยู่ระวังติดต่อให้บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ตรวจสอบและยืนยันเพิ่มเติม แต่ในส่วนที่ตรวจยึดมาได้พนักงานสอบสวนจะส่งตรวจพิสูจน์กลับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบหากพบว่ามีวัตถุต้องห้ามใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ก็จะเป็นความผิดเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอางอีกหลายข้อหา โทษสูงสุดจำคุก 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท” เภสัชกรวีรชัย กล่าว
