วันที่25 เม.ย.67 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ร่วมกันแถลงข่าวผลการเข้าตรวจสอบคลินิกชื่อดังย่านปทุมธานี หลังนักธุรกิจสาวร้องเพจสายไหมต้องรอด เลเซอร์ขนแล้วมีอาการปวดแสบปวดร้อน เป็นแผลเริ่มพุพอง และติดเชื้อรุนแรง
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ทำการตรวจสอบ หลังปรากฎข่าวดังกล่าว ซึ่งตามกฎหมายแล้ว การทำหัตถการด้วยการเลเซอร์ หรือการฉีดสารต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายจะต้องทำโดยแพทย์ ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างถูกต้อง ต่อมาจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเสริมความงามดังกล่าว ในพื้นที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบว่า ได้เปิดให้บริการเสริมความงามโดยใช้บุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ ทำการเลเซอร์ขนตามร่างกายให้ประชาชน ซึ่งพบพนักงานคนหนึ่งกำลังทำการเลเซอร์ขนตามร่างกายให้กับผู้มารับบริการ
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า จึงตรวจสอบใบอนุญาตสถานพยาบาลดังกล่าวพบว่า มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาลถูกต้อง แต่พนักงานกลับไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม อ้างว่า ได้จบหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล และทำการเลเซอร์ขนให้ผู้มารับบริการแล้วเป็นเวลา 1 ปี ตำรวจจึงได้จับกุมดำเนินคดี ในความผิดฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดตาม พ.ร.บ.ยา ส่วนกรณีของนักธุรกิจสาวที่ปรากฎเป็นข่าวนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ทำหัตถการเลเซอร์ คือพนักงานภายในคลินิก ซึ่งตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา
“สำหรับคลินิกที่ปล่อยให้บุคคลที่ไม่ใช่แพทย์มาให้บริการรักษา ก็จะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ฐานปล่อยปละละเลยด้วย ซึ่งมีความผิดทั้งจำและปรับ และอาจถูกสั่งให้ปิดสถานพยาบาล หรือเพิกถอนใบอนุญาตได้ ซึ่งเบื้องต้น ได้สั่งให้ปิดสถานพยาบาลนี้ชั่วคราว เนื่องจากเป็นคลินิกที่มีการมาขออนุญาตถูกต้อง แต่การดำเนินงานไม่เป็นไปตามที่ขออนุญาตไว้ จึงต้องให้ทำการปรับปรุงแก้ไข จึงจะกลับมาเปิดให้บริการได้” พล.ต.ต.วิทยา กล่าว
ด้าน นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ขณะนี้มีโฆษณาที่ล่อลวงมากมาย จึงฝากเตือนผู้ใช้บริการว่าต้องตรวจสอบสถานพยาบาลที่จะเข้ารับบริการว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ และเมื่อไปเข้ารับบริการ ก็ต้องตรวจสอบว่าสถานที่จริงตรงกับข้อมูลหรือไม่ และในห้องตรวจที่เข้ารับบริการ ก็ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลทางเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ และต้องดูว่าคนที่ทำหัตถการ ตรงกับข้อมูลของแพทย์ตามใบประกอบวิชาชีพหรือไม่