พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ,พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการ2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ , พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รองผู้กำกับการ2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สารวัตรกองกำกับการ2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร.ต.อ.โสรชาติ ดาวเรือง รองสารวัตรกองกำกับการ2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายธีรพล หรือโด้ วงศ์ขาว อายุ 30 ปี นางสาวปภาดา จ้อยอุดม อายุ 46 ปี และน.ส.ธนาวรรณ อรุณเมตตา อายุ 36 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก,ซองกระสุนปืน จำนวน 2 ซอง,เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 16 นัด,ยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 18 กรัม,ยาบ้าจำนวน 8 เม็ด และอุปกรณ์การเสพและจำหน่าย ได้ที่ หน้าร้านสะดวกซื้อ สาขา ถ.โชคชัย4 ต่อเนื่องห้องพักห้อง อภิญญาเพลส ถ.โชคชัย4 ซอย 27 ย่านลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล นำกำลังเข้าจับกุม นายธีรพล หรือโด้ ผู้ต้องหารายนี้ ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.3912/2567 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ข “ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ภายในซอยโพธิ์ปั้น แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ต่อมาพบผู้ต้องหากำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีน้ำเงิน-ดำ ออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัว แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมหยุดรถ พร้อมกับเร่งเครื่องยนต์หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไล่ล่าจนรถจักรยานยนต์ผู้ต้องหาล้มลง ก่อนที่จะเล็งอาวุธปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามมา เพื่อเปิดทางหลบหนีไป
ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น ได้สั่งการให้จัดชุดสืบสวนไล่ล่าเต็มรูปแบบเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นอันตรายต่อประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งพบตัวผู้ต้องหาที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขา ถ.โชคชัย4 แยก 24 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ หลังจากนั้น ผู้ต้องหา ได้พาไปยังห้องพักห้อง อภิญญาเพลส ถ.โชคชัย4 ซอย 27 และนำตรวจค้น ซึ่งจากการตรวจค้นในห้องดังกล่าวพบ น.ส.ประภาดา อายุ 46 ปี และน.ส.ธนาวรรณ อายุ 36 ปี อยู่อาศัย จากการตรวจค้นในห้องดังกล่าว พบ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุนปืน จำนวน 2 ซอง, เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 16 นัด, ยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 18 กรัม,ยาบ้าจำนวน 8 เม็ด อุปกรณ์การเสพและจำหน่าย
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน ยาบ้า ไอซ์ ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่าคดีนี้ผู้ต้องหามีหมายจับบัญชีม้าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าจับกุมได้ชักอาวุธปืนเล็งใส่ต่อสู้ขัดขวางการจับกุม ในที่สาธารณะ ถือเป็นอันตรายต่อประชาชนใกล้เคียงและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ “นครบาล1” จึงได้สั่งการให้ผมจัดชุดไล่ล่าจนสามารถจับกุมพร้อมของกลาง ถือว่าเป็นบทเรียนในการจับกุมผู้ต้องหาไม่ว่าเป็นคดีใดๆ เราต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย