พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนคร ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม น.ส.สมพร สิงแก้ว หรืออุ๊ย อายุ 39 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนางรอง ที่ 29/2567 ลงวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น หรือยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ” จับกุมตัวได้ที่บริเวณ หน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยบ้านสวน – หนองข้างคอก 8 ซอย 5 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี
เนื่องจากได้รับการร้องเรียนผ่านเพจ “ สืบนครบาล IDMB ” และการประสานจากสถายนีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายซึ่งมีพฤติการณ์ตระเวนก่อเหตุใช้กลอุบายหลอกช่วยเหลือหญิงชราระหว่างเดินทาง เมื่อสบโอกาสเหยื่อตายใจกลับข่มขู่ชิงเอาทรัพย์สินหลบหนี ตลอดจนร่วมกันก่อเหตุ อ้างสวดสะเดาะเคราะห์ ให้มีโชคลาภ ถูกหวย ค้าขายร่ำรวย ก่อนถอดจีวรทิ้งหอบเงินร่วมแสนหลบหนี โดยตระเวนก่อเหตุสร้างความเดือนร้อนให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง
สอบสวน น.ส.สมพร หรือ “ อุ๊ย บ้านนา ” ให้การภาคเสธ โดยบอกว่าในวันเกิดเหตุตนไม่ได้ตั้งใจที่จะก่อเหตุ มีคนรู้จักใช้ให้ขับรถยนต์ให้เพื่อเดินทางไปในพื้นที่ภาคอีสาน ระหว่างทางในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้พบหญิงชรายืนรอรถจึงขับรถเข้าไปเทียบเพื่อสอบถามเส้นทาง และใช้โอกาสนั้นรับหญิงชราคนดังกล่าวเข้าไปส่งในตัวเมือง คนรู้จักที่ให้ตนขับรถให้ได้มีการขอเบอร์โทรศัพท์ของหญิงชราไว้เพื่อติดต่อ เมื่อหญิงชราทำธุระเสร็จ คนรู้จักที่ให้ตนขับรถให้ ได้โทรติดต่อเพื่อจะรับหญิงชราคนดังกล่าวกลับไปส่ง ณ จุดรับมา พร้อมออกอุบายจะขอซื้อผ้าไหม เมื่อสบโอกาสได้ข่มขู่เอาทรัพย์สินของหญิงชราจนได้มา ก่อนจะปล่อยให้หญิงชราลงจากรถ จากนั้นตนและคนรู้จักที่ใช้ให้ตนขับรถให้ก็พากันหลบหนี ตนได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ตนเกรงจะถูกจับกุมจึงได้หลบหนีออกจากบ้านที่อำเภอบ้านนา ก่อนจะมาถูกจับกุมในพื้นที่ จังหวัดชลบุรี
เมื่อสอบถามถึงคดีที่ร่วมกันกับพวกก่อเหตุปลอมเป็นพระระดับเจ้าอาวาสหลอกแม่ค้าเอาเงินใส่ห่อ อ้างสวดสะเดาะเคราะห์ ให้มีโชคลาภ ถูกหวย ค้าขายร่ำรวย ก่อนถอดจีวรทิ้งหอบเงินร่วมแสนหลบหนี น.ส.สมพร หรือ “ อุ๊ย บ้านนา ” ให้การว่าตนไม่ได้อยู่ในขบวนการ แต่คนรู้จักที่เคยใช้ให้ตนขับรถยนต์ให้นั้นอาจจะเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของ น.ส.สมพร พบเคยถูกจับกุมเมื่อ ปี 2553 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ขายสลากกินแบ่งสลากกินแบ่งเกินราคาที่กำหนดในสลาก , ยิงอาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาตให้มีไว้เพื่อเก็บ ” ท้องที่ สถานีตำรวจภูธรบ้านนา และ ปี 2564 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ร่วมกันในข้อหาฉ้อโกง ” ท้องที่ สถานีตำรวจคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชรอีกด้วย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเหล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย ตลอดจนศึกษารายละเอียดของการลงทุนแต่ละรูปแบบให้ชัดเจนเสียก่อน หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB”