พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง ล่าสุด พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง1 สั่งการ พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผู้กำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง1 จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รองผู้กำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง1 นำกำลังจับกุม MS.MARRY อายุ 42 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
พ.ต.ท.สุริยะ เปิดเผยว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง1 ลงพื้นที่ตรวจสอบตาม ตามศาสนสถานคริสตจักร แหล่งชุมนุมซึ่งเป็นที่รวมตัวของคนต่างด้าว ในพื้นที่กรุงเทพฯ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบผู้ต้องสงสัย มีท่าทีพิรุธเมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว ขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางในเบื้องต้นผู้ต้องสงสัยไม่ยอมแสดงเอกสาร แต่ได้แจ้งชื่อและวันเดือนปีเกิด ตรวจสอบจากฐานข้อมูลพบว่า ผู้ต้องสงสัยชื่อ MS.MARRY อายุ 42 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรมาแล้ว 26 ครั้ง ครั้งล่าสุดเดินทางเข้ามาเมื่อช่วงต้นปี 2563 ได้รับการตรวจลงตราด้วยวีซ่าประเภทผ่อนผัน 30 วัน เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2563 อนุญาตถึง 31 มี.ค.2563 หลังจากนั้นไม่พบว่ามีการยื่นคำร้องขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปอีกการอนุญาตสิ้นสุดลงแล้วกว่า 4 ปี
“จากการแนวทางสืบสวนสอบสวน ได้ข้อมูลอีกว่า MS.MARRY ไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่เคยรับจ้างดูแลผู้สูงอายุเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และจะได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินคดีและส่งตัวกลับประเทศต้นทางต่อไป” พ.ต.ท.สุริยะ กล่าว
พ.ต.ท.สุริยะฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ”บุคคลต่างด้าวทุกสัญชาติที่เข้ามาในราชอาณาจักร นอกจากจะต้องเข้ามาตามช่องทางอนุญาตตามกฎหมายและได้รับการตรวจลงตราโดยถูกต้องแล้ว ยังมีหน้าที่ที่จะต้องแจ้งที่พักอาศัยต่อเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และหากประสงค์จะทำงานในประเทศไทยจะต้องดำเนินการยื่นขอใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 มีโทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท ในส่วนของเจ้าของบ้านหรือผู้ครอบครองเคหสถานยังมีหน้าที่ในการแจ้งต่อ สตม. เมื่อมีบุคคลต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยในสถานที่ที่อยู่ในความดูแลของตนอีกด้วย