พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผู้กำกับการ1กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ, พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รองผู้กำกับการ1กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง4กองกำกับการ1กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สถานีตำรวจทางหลวง1กองกำกับการ1กองบังคับการตำรวจทางหลวง นำกำลังจับกุม นายสุชาติฯ อายุ 37 ปี (ผู้ขับขี่) พร้อมแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา 11 ราย ได้ในพื้นที่หมู่5 ตำบลหนองหลวง อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเรื่อยมา ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบ พบรถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน ขับขี่มาด้วยความเร็วสูง ท่าทางมีพิรุษ จึงได้ส่งสัญญาณพร้อมพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์ดังกล่าวให้หยุด แต่ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวไม่ยอมหยุดเลี้ยวหลบหนีเข้าไร่อ้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจนสามารถสกัดรถคันดังกล่าวได้ พบนายสุชาติฯ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่พร้อมแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมาอีกจำนวน 11 คน โดยสารมากับรถยนต์ แต่ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดจึงจับกุมไว้ได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายสุชาติฯ ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชายไทย ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 11 คน ที่บริเวณ พื้นที่ ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางที่ อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ โดยได้ค่าจ้าง 1,500 บาทต่อคน สอบถามบุคคลต่างด้าวที่ถูกจับใหรัยสารภาพ ผ่านล่ามแปลภาษา ว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถ เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 16,000 – 25,000 บาท ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ดำเนินคดี
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา นายสุชาติ ว่า “ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ส่วนแรงงานต่างด้าวอีก 11 ราย แจ้งข้อหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”