พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำทัพเปิดปฏิบัติการ “โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง” หลังก่อเหตุไล่ยิงคู่อริกลางถนนลาซาล-แบริ่ง ในท้องที่ สถานีตำรวจนครบางนางนำกำลังกว่า 100 นาย บุกเข้าค้นเซฟเฮาส์ 5 จุด รวบตัวการสำคัญได้ ตรวจยึดอาวุธปืน 38 กระบอก กระสุนกว่า 800 นัด พร้อมยุทธภัณฑ์จำนวนมาก ที่น่าตกใจคือมีชาวบ้าน มาฟ้องพฤติกรรม “สุดกร่าง” ข่มขู่ชาวบ้านในพื้นที่สั่งห้ามให้ตำรวจดูกล้องไม่งั้นจะยกพวกมาเผาบ้าน ขยายผลยังพบว่ากองโจรกลุ่มนี้เป็น “หัวเชื้อ” คอยแบ็กอัพให้กลุ่มช่างกลชื่อดังย่านบรรทัดทอง มีหัวหน้าซุ้มเป็นศิษย์เก่าช่างกลพัวพันธุรกิจสีเทา
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อำนวยการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 นำกำลัง พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ภพธร จิตรหมั่น รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ศิรณวชญ์ อินทร ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 5 พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางนา พ.ต.ท.เอกภพ ลิขิตธนสมบัติ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางนา พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 5 พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกัยการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาล สืบสวนนครบาล 5 แล สถานีตำรวจนครบาลบางนา พร้อมด้วยกำลังพลกว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง”
สืบสวนติดตามจับกุมตัวนายดนัย หรือออม บางข่า อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 750/780 หมู่ 4 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ จ.376/2567 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่ ห้องเช่าเลขที่ 6/430 ชั้น 7 คอนโดชื่อดังแห่งหนึ่ง ซอยวัดด่านสำโรง 11 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ ขณะเดียวกันนำหมายค้นศาลบุกทลายเซฟเฮาส์ “อิทธิพลมืดวัดด่านสำโรง” 5 จุด ที่บ้านเลขที่ 3374 หมู่ 4 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ บ้านเลขที่ 1093 หมู่ 6 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ บ้านเลขที่ 202 หมู่ 2 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ บ้านเลขที่ 6/430 ชั้น 7 คอนโดชื่อดังภายใน ซอยวัดด่านสำโรง 11 ตตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ และบ้านเลขที่ 750/780 หมู่ 8 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ ยึดอาวุธปืน 38 กระบอก กระสุนปืนกว่า 800 นัด เงินสด 127,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 16 เล่ม โฉนดที่ดิน 10 ฉบับ คู่มือจดทะเบียนรถ 15 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 6 คัน พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ ยุทธภัณฑ์ผิดกฎหมายจำนวนหลายรายการ
พฤติการณ์จากเหตุอุกอาจเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567 เวลา 03.00 น. บริเวณสามแยกไฟแดงลาซาล-แบริ่ง (ตัดใหม่) แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร กลุ่มชายฉกรรจ์ “ยกโขยง” ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่าก่อนจะจอดตั้งป้อมยิงใส่รถตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ แม้จะเป็นระยะเกือบ 100 เมตร แต่คมกระสุนพุ่งเข้าศีรษะของนายเจษฎา วิริยะ ที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับอย่างแม่นยำจนทำให้เสียชีวิต หลังสิ้นเสียงกระสุน ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ยังมีชีวิตอยู่พยายามก้มตัวและขับหลบหนีอย่างสุดชีวิตจนรถปีนข้ามเกาะกลางถนนขับสวนเลนไปอย่างทุลักทุเล แต่ขบวนรถจักรยานยนต์กลุ่มคนร้ายยังคงขับติดตามไล่ตามยิงอย่างเหี้ยมเกรียม
เหตุสุดอุกอาจท้าทายกฏหมายครั้งนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 นำกำลังชุดสืบนครบาลลงพื้นที่สืบสวนติดตามกลุ่มคนร้าย “เต็มสูบ” จนสืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มหัวโจกในพื้นที่ละแวกซอย “วัดด่านสำโรง” ร่วมกันก่อคดีในพื้นที่ จังหวัดสมุทรปราการ อาทิ เช่น ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ร่วมกันปล่อยเงินกู้ ร่วมกันบุกรุก ก่อเหตุลักษณะนี้มาไม่ต่ำกว่า 10 คดีในห้วง 1 ปีที่ผ่านมา เดิมกลุ่มคนร้ายมักจะก่อเหตุแต่ในพื้นที่สมุทรปราการ แต่คราวนึ้ย่างกรายมาก่อเหตุเลยเขตแดนสมุทรปราการเพียง 100 เมตร เป็นอำนาจการสืบสวนสอบสวนของนครบาล
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า การตรวจสอบกล้องวงจรปิดละแวกที่เกิดเหตุทำให้ทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันไปก่อเหตุมีมากถึง 23 คน และยังพบเบาะแสว่ากลุ่มคนร้ายนี้เป็นหัวเชื้อผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุของกลุ่มนักศึกษาช่างกลชื่อดังใจกลางกรุงในอีกหลายๆคดี และที่เห็นว่าต้องใช้มาตการขั้นเด็ดขาด มี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลนำกำลังชุดสืบนครบาลลงพื้นไล่กล้องวงจรปิดจนถึงบริเวณภายในซอยแบริ่ง 48/9 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ พบชาวบ้านในละแวกต่างมีอาการหวาดผวาอย่างผิดปกติ ไม่กล้าให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพราะถูกทนายของกลุ่มคนร้ายมาข่มขู่ว่า หากให้ตำรวจดูกล้องวงจรปิด จะยกพวกมาเผาบ้าน ชาวบ้านยังแจ้งอีกว่าเหตุที่กลุ่มคนร้ายก่อเหตุซ้ำๆซากๆ ยังสามารถลอยหน้าลอยตานี้ได้ เพราะมีทนายแสบเป็นผู้คอยตามล้างตามเช็ดเรื่องคดีนี้กับกลุ่มคนร้าย ทำกลุ่มคนร้ายย่ามใจกร่างได้สุดๆเช่นนี้
เมื่อชุดสืบสวนรับทราบเรื่องราวจากชาวบ้านในพื้นที่ ก็ตระหนักได้ว่าครานี้ ไม่ใช่การสู้กับผู้ร้ายทั่วไปแต่ต้องต่อสู้กับ “อิทธิพลเถื่อน” ได้จัดกำลังปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ร่ายเทพนคร ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 5 และสถานีตำรวจนครบาลบางนากว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง” บุกทลาย “เซฟเฮ้าส์” แหล่งกบดาน 5 จุด ก่อนจะรวบตัวการสำคัญได้ ยึดของกลางจำนวนมรก ขยายผลทราบว่า หัวหน้าของกลุ่มคนร้ายคือ นายเพชร และ นายไปป์ เป็นอดีตนักศึกษาช่างกลชื่อดังย่านบรรทัดทอง และยังพัวพัน “ธุรกิจสีเทา” อีกด้วย
