พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม สั่งการ พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผู้กำกับการ1กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ รองผู้กำกับการ1กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ต.อนวัช ตันตินันทกุล สารวัตรกองกำกับการ1กองบังคับการปราบปราม ร.ต.อ.ธีรเดช อรุณนพรัตน์ รองสารวัตรสอบสวนกองกำกับการ1กองบังคับการปราบปราม ด.ต.ธวัชชัย ผาสุกานนท์, จ.ส.ต.ปิยะชัย เหมะธุลิน และ ส.ต.อ.ประพันธ์ ย้อยดา ผู้บังคับหมู่กองกำกับการ1กองบังคับการปราบปราม จับกุม นายจรัสฯ อายุ 42 ปี หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 111/2565 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ข้อหา “ยักยอก” จับกุมได้ที่ตำบลบางตีนเป็ด อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2562 นายจรัสฯ ผู้ต้องหารายนี้ ทำงานเป็นพนักงานที่บริษัทนำเข้าและจำหน่ายเครื่องสำอางแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี โดยผู้ต้องหามีหน้าที่หาลูกค้า และเสนอขายสินค้าเครื่องสำอางและสินค้าเสริมความงามของบริษัท ซึ่งภายหลังจากที่ผู้ต้องหาทำงานในบริษัทฯ ได้ไม่นาน บริษัทฯ ได้ตรวจพบว่านายจรัส ได้แอบยักยอกเงินของบริษัทฯ โดยเป็นการรับเงินค่าสินค้าจากลูกค้าแล้วไม่ยอมส่งเงินให้บริษัทฯ รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 1.5 ล้านบาท ซึ่งภายหลังจากก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากบริษัทฯ และไปสมัครเข้าเป็นพนักงานขายที่บริษัทอื่นย่านมีนบุรี และก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก ผู้เสียหายรวมตัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อศาลอาญามีนบุรี ซึ่งต่อมาศาลอาญามีนบุรีได้ออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ไว้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ปัจจุบันผู้ต้องหาแอบมาพักอาศัยและทำงานอยู่ที่บริษัทในพื้นที่ตำบลบางตีนเป็ด จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงลงพื้นที่ติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวน นายจรัส ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า ตนแอบเอาเงินไปลงทุน แล้วหมุนเงินไม่ทัน ทำให้ไม่สามารถนำเงินมาคืนบริษัทฯได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาเนื่องจากยังมีหมายจับในลักษณะเดียวกันอีก จึงนำตัวส่งศาลอาญามีนบุรี เพื่อดำเนินคดี จากแนวทางสืบสวนยังพบว่า ผู้ต้องหายังมีพฤติกรรมยักยอกในลักษณะดังกล่าวอยู่ โดยจะเข้าไปทำงานในบริษัทต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดจังหวัดชลบุรี, จังหวัดอุบลราชธานี, จังหวัดกาฬสินธุ์ และพยายามหลบหนีออกนอกประเทศอีกด้วย
