สตม.ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวบหัวหน้าแก๊งชาวรัสเซียตั้งตั้งฐานในไทย จำหน่าย-ปลอมหนังสือเดินทาง

ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง( สตม.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  พล.ต.ต. ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง,พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ช่วยราชการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผู้กำกับการกองกำกับการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่าที่ พ.ต.ท.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.ต.อดิศร บุญชุ่ม สารวัตรกองกำกับการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงผลทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ทำหนังสือเดินทางปลอม จับกุม นาย อาเทม ทุชคลีช (ARTEM TYSHKEVICH) สัญชาติรัสเซีย หัวหน้าขบวนการ

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ทำหนังสือสอบถามถึงหน่วยสืบสวนอาชญากรรมข้ามชาติภายใต้สำนักรักษาความมั่นคงทางการทูตของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย Overseas Criminal Investigations Unit (OCIU) และได้รับการยืนยันว่า “หนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นหนังสือเดินทางปลอม” จากการสืบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าวได้มีการลงโฆษณาอย่างโจ่งแจ้งในแอปพลิเคชัน VK, Telegram, WhatsApp และผ่านเว็บไซต์ (passpart.pro) ว่าสามารถทำหนังสือเดินทางได้ 15 สัญชาติ และเป็นการขอสัญชาติแบบถูกต้อง โดยมีการชำระผ่านบัญชีเงินดิจิทัล และได้มีการเปิดบริษัทในไทยเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้มีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อ และได้ติดต่อไป ซึ่งผู้เสียหายหลายรายไม่ได้รับหนังสือเดินทาง และบางรายที่ได้รับหนังสือเดินทางก็เป็นหนังสือเดินทางที่ปลอมขึ้น  จากการตรวจสอบยังพบว่าหนังสือเดินทางที่ปลอมขึ้นดังกล่าวนั้นส่งมาโดยบริษัทขนส่ง FEDEX จากประเทศโดมินิกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการประสานกับหน่วยสืบสวนอาชญากรรมข้ามชาติ ภายใต้สำนักรักษาความมั่นคงทางการทูตของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย Overseas Criminal Investigations Unit (OCIU) เพื่อสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่าหัวหน้าของกลุ่มขบวนการดังกล่าวคือ นายอาเทม (ARTEM ) สัญชาติรัสเซีย

จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ให้จับกุม นายอาเทม (ARTEM) ในข้อหา “ทำหนังสือเดินทางปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด ฯ, จำหน่ายหนังสือเดินทางปลอม ฯ, นำเข้าหนังสือเดินทางปลอม ฯ” และได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อพบตัวบุคคลตามหมายจับ และเพื่อพบพยานหลักฐาน จากการเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ทำการตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจำนวน 12 รายการ เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค สมุดบัญชี และบัตรเครดิตของต่างประเทศ

จากการตรวจสอบขยายผลพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันทำ มีบุคคลที่อยู่ต่างประเทศที่ประเทศโดมินิกันรับคำสั่งในการทำหนังสือเดินทาง ปลอม นายอาเทม ทำหน้าที่โฆษณาและพูดคุยกับผู้เสียหายทั้งหมด และจัดการเรื่องเงินที่ได้รับจากผู้เสียหาย  ทั้งนี้ผู้เสียหายไม่ทราบว่าหนังสือเดินทางนั้นเป็นของปลอม ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก โดยการติดต่อซื้อขายนั้นกระทำผ่านแอปพลิเคชัน TELEGRAM โดยความเสียหายที่ตรวจพบในเบื้องต้นทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงได้จับผู้ต้องหาได้ที่ หน้าสถานีบริการน้ามัน ปตท. เจริญกรุง 87 ถ.เจริญกรุง แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 ก.ต.ที่่ผ่านมา แจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนสืบสวน สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

RELATED ARTICLES