พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักด์ิ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก. สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ. บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม MR.ABDULLAHI (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี สัญชาติเดนมาร์ก, MR.MOHAMED (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี สัญชาติบริติช, MR.SAEED (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี สัญชาติบริติช และ MS. SUMYA อายุ 21 ปี สัญชาติบริติช เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหา “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว,ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยใช้กาลังประทุษร้าย, ร่วมกันกักขังหน่วงเหน่ียวหรือกักขังผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทาง สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร” โดยจับกุม MR.ABDULLAHI จับท่ีหน้าโรงแรมในย่าน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง MR.MOHAMED และ MR.SAEED จับท่ี POOLVILLA ในย่านถนนเทพประสิทธ์ิ 5 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ส่วน MS. SUMYA จับที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จากกรณีได้มีผู้เสียหาย สัญชาติอังกฤษ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เม่ือวันท่ี 12 ก.ค.2567 ถูก MR.ABDULLAHI สัญชาติเดนมาร์ก พร้อมพวกรวม 5 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกายและเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป ได้แก่ นาฬิกา ย่ีห้อ Audemars piguet 1 เรือน นาฬิกา ย่ีห้อ Rolex 1 เรือน และทรัพย์สินอื่นๆ รวม เหตุเกิดที่ ห้องพักในแมนชั่นย่าน ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ต่อมาพนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับไว้ได้ทั้งหมด 5 ราย พร้อมนำข้อมูลผู้ต้องหาบันทึกไว้ในระบบสารสนเทศ ตม. เพื่อเฝ้าระวัง กระทั่งสืบสวนทราบว่า MR.ABDULLAHI, MR.MOHAMED และ MR.SAEED หลังจากก่อเหตุได้หลบหนี ไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
ขณะเดียวกันยังได้ตรวจพบว่า MISS SUMYA อายุ 21 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่กำลังจะเดินทางออกจากประเทศไทย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปยังกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย จากการตรวจค้นกระเป๋าเดินทางพบช่อดอกกัญชาบรรจุในถุงสุญญากาศขนาด 500 กรัม จำนวน 50 ห่อ รวมนำหนัก 25 กิโลกรัม จึงแจ้งข้อหา “พยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร” ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวนสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดำเนินคดีตามกฎหมาย และพนักงานสอบสวนสน.คลองตันจะได้ ดำเนินการตามหมายจับ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จับกุม MR.U WIN (นามสมมุติ) อายุ 65 ปี สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลแขวง ดุสิต ที่ จ.79/2567 ลงวันที่ 14 พ.ค.2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” ได้ที่บริเวณหน้าโรงแรมย่าน ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ เนื่องจาก MR.U WIN (นามสมมติ), พร้อมพวกรวม 3 ราย อ้างว่าเป็นนักธุรกิจซื้อขายทองคาในประเทศเมียนมา ต้องการซื้อทองคำจำนวนมาก เพื่อนำไปขายต่อ โดยพูดจาหว่านล้อมจนผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินให้จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3,135,000 บาท ต่อมาผู้เสียหายได้พยายามทวงถามเงินกับ MR.U WIN แต่ไม่สามารถติดต่อ ได้อีกเลย ผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พญาไทจึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่ขอศาลแขวงดุสิตออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ทั้งหมด 3 ราย จนกระทั่งทราบว่า MR.U WIN หนึ่งในแก๊งชาวเมียนมาดังกล่าว ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย พักอาศัยอยู่ในท้องที่ จังหวัดนนทบุรี จึงนำกำลังติตามจับกุมได้ดังกล่าว ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป
