พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รองผู้บังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผู้กำกับการ6กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย รองผู้กำกับการ6กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.สวรรยา เอียดตรง สารวัตรกองกำกับการ6กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันแถลงผลปฎิบัติการ TAKE DOWN MAFIA Ep.2 ล่ามือปืนลายคราม
ผลการปฏิบัติสามารถจับกุม นายสมเกียรติ หรือ ป๋อง อินนุรักษ์ อายุ 49 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “จ้างวานฆ่าโดยไตร่ตรอง” นายพศิน นวลเปียน หรือ นายกยักษ์ อายุ 63 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง, ร่วมกันมีอาวุธปืนสงคราม” และ นายทวี โอฬาริ อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “สนับสนุนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง” พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และนายรีด เส็นหมาย อายุ 64 ปี ผู้ต้องขังเรือนจำ จ.ชุมพร ตามหมายจับอาญา ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง,ร่วมกันมีอาวุธปืนสงครามไว้ในความครอบครอง” พร้อมยึดของกลาง รถยนต์ 3 คัน โทรศัพท์ 10 เครื่อง กระสุนปืนขนาดต่างๆ 91 นัด สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม
พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า เนื่องจาก ได้มีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามไม่ต่ำกว่า 3 กระบอก ยิงนายวิโรจน์ (สงวนนามสกุล) จนเสียชีวิตคาที่บนรถแทรกเตอร์ เหตุเกิดในสวนยางพารา หมู่3 ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล โดยหลังเกิดเหตุครอบครัวผู้ตายเชื่อว่าคดีดังกล่าวน่าจะมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อยู่เบื้องหลัง เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบ ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.พงศ์ปณต กล่าวว่า หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี นำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพรับซื้อไม้ยางพาราและตัดโค่นไม้ยืนต้นในพื้นที่ และมีปัญหาขัดแย้งเรื่องงานตัดไม้กับนายสมเกียรติ ผู้ต้องหา มีปากเสียงรุนแรงถึงกับขู่ฆ่า ทำให้นายสมเกียรติ ว่าจ้างกลุ่มมือปืนจากพื้นที่ จังหวัดพัทลุง มายิงผู้ตาย ซึ่งกลุ่มมือปืนที่รับงานครั้งนี้ คือ นายพศิน หรือยักษ์ เป็นอดีตนายกเทศมนตรีแห่งหนึ่งในพื้นที่ จัวหวัดพัทลุง นายทวี และ นายรีด รวมถึงยังพบข้อมูลอีกว่า ซุ้มมือปืนของนายพศิน นั้นมีความสัมพันธ์กับกลุ่มของซุ้มมือปืนนายไพฑูรย์ ที่เคยถูกตำรวจ กก.6 บก.ป. จับกุมดำเนินคดีจากปฏิบัติการ TAKE DOWN MAFIA Ep.1 ไปเมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.อนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ในส่วนของ นายรีด หนึ่งในกลุ่มมือปืน เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2566 ก็ได้ร่วมกันกับพวกก่อเหตุยิงนายธวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ในพื้นที่ จ.ชุมพร เสียชีวิตอีกราย จากการตรวจสอบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทั้ง 2 คดีนี้ ยังพบว่าเป็นอาวุธปืนสงครามชนิดเดียวกับคดีของ นายประศาล คงนุ่น หรือ “หมีป่าบอน” คนสนิท ของเสี่ยแป้งนาโหนด ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตอีกด้วย
“ซุ้มมือปืนที่ก่อเหตุทั้งสามคดีนี้ มีความเชื่อมโยงกัน และก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง รับงานทั่วไป ไม่จำกัดพื้นที่ ตามแต่จะมีผู้ว่าจ้าง รวมถึงมีความชำนาญในการใช้อาวุธสงครามเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการรับงานจำนวนมาก จึงรวบรวมพยานหลักฐานเร่งขออำนาจศาลออกหมายจับ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 4 ราย จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการ TAKE DOWN MAFIA Ep.2 ตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้ดังกล่าว” จากการสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าทั้ง 4 รายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุฆ่า นายวิโรจน์ อย่างแน่นอน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมาย” พ.ต.ท.อนุสรณ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สวรรยา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากแนวทางสืบสวน ยังพบว่า นายทวี หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาคดีนี้ ที่ทำหน้าที่เป็นคนคอยให้การช่วยเหลือจัดหารถให้กับกลุ่มมือปืนนั้น ถือเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในพื้นที่ จ.สตูล และ มีศักดิ์เป็นอาของ นายปิยะศักดิ์ หรือ กาย ดำสินธุ์ เอเย่นต์ยาเสพติด ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีลวงฆ่า รอง ผกก.สภ.มะนัง พร้อมลูกน้อง เมื่อปี 58 รวมถึงคดียิงถล่มบ้านนายจำรูญ สงด้วง ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จังหวัดสตูล จนเป็นเหตุให้ บุตรชายวัย 13 ปี ของนายจำรูญ เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดเมื่อปี 59 เนื่องจากไม่พอใจ และเข้าใจว่า นายจำรูญ เป็นผู้ชี้เบาะแสให้เจ้าหน้าที่นำกำลังกวาดล้างตรวจค้น ทำลายพืชกระท่อมกว่า 200 ไร่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดีอีกด้วย