พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ฃ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.ศราวุฒิ พิมพ์สุภาพร สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร.ต.อ.พงศกร อินทร์คง รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล จ.ส.ต.สัมฤทธิ์ แก้วสุริยา ผู้บังคับหมู่กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล
จับกุมนายวุฒิภูมิ หรือหมี โพธิสภา อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1299/2566 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ข้อหา “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” จับกุม บริเวณหน้าบ้าน หมู่ 18 ถนนคุ้มเกล้า12 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี จว.กรุงเทพมหานคร
โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้เห็นประกาศข้อความขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านหนองจอก ว่าทรัพย์สินได้ถูกลักเอาไปเป็นจำนวนหลายรายการและสร้างความเสียหายให้แก่ชาวบ้านหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายวุฒิภูมิ ผู้ต้องหารายนี้ เป็นผู้ก่อเหตุ จนนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้ สอบสวน นายวุฒิภูมิ ให้การว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์มาหมายครั้งในพื้นที่มีนบุรีและใกล้เคียง จะลักเอาทรัพย์สินที่มีราคาไม่สูงมาก เพื่อหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ติดตามตัวและไม่ให้ความสนใจ ซึ่งจะสลับป้ายทะเบียนมอเตอร์ไซต์ไปมา อีกทั้งยังอำพรางตัวโดยใช้เสื้อวินมอเตอร์ไซต์และเสื้อสะท้อนแสงเพื่อลดความสนใจของตำรวจที่ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดอยู่ อีกทั้งยังแจ้งว่าถ้าตำรวจมาสุนัขที่เลี้ยงไว้จะเห่ากรรโชกทำให้ตนไหวตัวได้ทัน โดยหลังจากลักทรัพย์สินมาจะนำไปขายเพื่อนำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวันและซื้อยาเสพติดมาเสพ จากการตรวจสอบประวัติพบมี หมายจับของศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1058/2567 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ติดตัวอีกหนึ่งหมายจับในข้อหา ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร และเคยต้องโทษในคดี ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย ปี 2551 สน.มีนบุรี, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 , ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ปี 2557 สน.คันนายาวอีกด้วย ก่อนนำตัวส่ง สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ นับว่าเป็นภัยสังคม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ออกตระเวนก่อเหตุลักเอาทรัพย์สินในหลายท้องที่ในเวลากลางวัน มีการวางแผน อำพรางตัวเจ้าหน้าที่ สร้างความเดือดร้อนในกับสังคมโดยรวมอย่างมาก หากไม่รีบจับกุมตัวอาจเป็นภัยสังคมที่ส่งผลให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวในวงกว้างได้ และขอฝากเตือนประชาชน ไม่ว่าสิ่งของไม่ควรประมาทวางสิ่งของทรัพย์สินไว้นอกบ้าน ไกลสายตา เพราะจะเพิ่มโอกาสในการก่อเหตุของมิจฉาชีพได้