นครบาลเปิดปฏิบัติการเชิงรุกปราบปรามยานรก

ในการประชุมเร่งรัดการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมายและสั่งการให้ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานด้านยาเสพติ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวนนครบาล ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ ผู้บังคับการในสังกัดทุก ๆ หน่วยให้สรุปผลการปฏิบัติในภาพรวมของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด

ผลปรากฏว่า ในข้อหา ความผิดร้ายแรงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีผลการจับกุมเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบการจับกุมในปี 2566 ในห้วงเดียวกัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึง 9 สิงหาคม 2567 มีผลการจับกุมยาเสพติดในข้อหาความผิดร้ายแรง ได้มากถึง 5,313 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 5,799 คน เปรียบเทียบกับปี 2566 ในห้วง
เดียวกัน สามารถจับกุมได้มากกว่า จำนวน 2,218 คดีผู้ต้องหา 2,582 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 239.54 (รวมทุกข้อหา 9,361 คดี) ยึดของกลาง ยาบ้า จำนวน 60 ล้านเม็ดเศษ ยาไอซ์ จำนวน 1,631 กิโลกรัม  เคตามีน จำนวน 644 กิโลกรัม  เฮโรอีน จำนวน 161 กิโลกรัม  ยาอี จำนวน 3,763 เม็ด

ในห้วงการเร่งรัด 3 เดือนตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาลสามารถจับกุมยาเสพติดในข้อหาความผิดร้ายแรงได้ ผู้ต้องหา 1,956 คน รวมทุกข้อหา 5,009 คน สูงกว่าเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้เป็นตัวชี้วัดถึง 1,208 คน คิดเป็นสูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 161.92 เรื่องคดีเครือข่ายรายสำคัญ เป้าหมายในห้วง 3 เดือน มีการตั้งเป้าหมายไว้ 55 เครือข่าย สามารถ ดำเนินการได้ครบทั้ง 55 เครือข่าย โดยยังเหลือเวลาอีก 21 วันจะดำเนินการต่อเป้าหมายเครือข่ายรายสำคัญเพิ่มไปได้อีก เพื่อเป็นการทำลายขบวนการค้ายาเสพติด และเครือข่ายรายสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการแพร่ระบาดในชุมชนของกรุงเทพมหานคร

ส่วนการขยายผลจากการจับกุมผู้ค้ารายย่อย รายเล็ก กลาง ใหญ่ กำหนดให้ต้องมีการขยายผลไปจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดในข้อหา สมคบ สนับสนุนมีการกำหนดเป้าหมายไว้ 45 คดีสามารถดำเนินการได้ครบทั้ง 45 คดี และยังเสนอขออนุมัติต่อเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับเครือข่ายอื่น ๆ ไว้อีกหลายคดี อยู่ระหว่างการดำเนินการต่อเนื่อง ไม่ได้หยุดการทำงาน เพื่อให้มีการขยายผลต่อเนื่องต่อไป เป้าหมายเพื่อต้องการให้สามารถจับกุม และยึดทรัพย์เครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดที่เหนือขึ้นไปจนถึงนายทุนให้ได้มากที่สุด  ตัดท่อน้ำเลี้ยงของขบวนการค้ายาเสพติด

ด้านการยึดทรัพย์ของกลุ่มค้ายาเสพติด มีการกำหนดเป้าหมายการยึดทรัพย์ ทั้งปีงบประมาณ 2567  ดำเนินการยึดทรัพย์ให้ได้  800 ล้านบาท (ทั้งปีงบประมาณ ตั้งแต่ ตุลาคม 2566- กันยายน 2567)  ดำเนินการได้ในภาพรวมตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 9 สิงหาคม 2567 จำนวนทั้งสิ้น 1,180 ล้านบาทเศษ ทะลุเป้าหมายภาพรวมทั้งปีงบประมาณไปเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อมองในห้วงการระดมเร่งรัดใน 3 เดือนของนายกรัฐมนตรี มีการกำหนดเป้าหมายให้ยึดทรัพย์ได้ 201 ล้านบาท สามารถดำเนินการได้ในห้วงนี้ ประมาณ 70 ล้านบาทเศษ ดูเหมือนต่ำกว่าเป้าหมายในห้วงระดมนี้ แต่หากมองในภาพรวม จะเห็นได้ว่า กองบัญชากาiตำรวจนครบาลเร่งดำเนินการเรื่องการยึดทรัพย์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2567 จนทะลุเป้าหมายภาพรวมของทั้งปีงบประมาณไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ในห้วง 3 เดือน อาจไม่ถึงเป้าที่มีการกำหนดไว้ เป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นการกำหนดที่ท้าทายให้ต้องดำเนินการไปให้ถึงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีการกำหนดในยอดที่สูงกว่าทุกจังหวัด ทั้ง 25 จังหวัดเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไม่ได้นิ่งนอนใจ ประสานงานกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยร่วมต่างๆ ทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร  มี พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้รับนโนบายไปขับเคลื่อนให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติในนามของศูนย์ป้องกันปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร โดยให้ทำงานร่วมกัน ทั้งในเรื่องการรับแจ้งข้อมูล เบาะแส รวมถึงการดำเนินคดีในเรื่องการสมคบ สนับสนุนให้ไปถึงกลุ่มนายทุน ตัวการใหญ่ เพื่อให้สามารถยึดทรัพย์ให้ได้มากที่สุดในห้วง 3 เดือนของการเร่งรัดตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ในส่วนของมาตรการ การจัดระเบียบสังคม เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยง พื้นที่เสี่ยงต่างๆ

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจทั้ง 88 สถานี กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาบ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 1-9 ร่วมกันออกสืบสวน หาข่าว ออกตรวจตราสถานบันเทิง สถานบริการ สถานประกอบการที่ให้บริการคล้ายสถานบันเทิง  พื้นที่เสี่ยงรอบสถานศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง และได้รับคำชื่นชมในการประชุมคณะกรรมการเร่งรัดว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกรุงเทพมหานคร มีการดำเนินการในเรื่องนี้ได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพเรื่องการป้องกัน บำบัดรักษา ที่เป็นงานของฝ่ายสาธารณสุข สำนักอนามัยฯ และกรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาบได้ให้การสนับสนุนการปฏิบัติ และจัดกำลังเข้าไปร่วมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถในทุกพื้นที่ ทั้งการค้นหาผู้ป่วยในชุมชน ผู้มีอาการทางจิตที่เกิดจากการใช้ยาเสพติด และไม่ได้ใช้ยาเสพติด การเอ็กซเรย์พื้นที่ค้นหาผู้เสพ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัด รักษา และมีผลการปฏิบัติผ่านเกณฑ์ของคณะกรรมการ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ได้ประเมินความพึงพอใจของพี่น้องประชาชนในทุกเขต พบว่ามีความพึงพอใจของประชาชน ในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่สูงขึ้นอีกส่วนหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเน้นย้ำกำลังพลที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติด และทุกสายงานให้มีความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ เรื่องความปลอดภัยในการเข้าปฏิบัติงานทุกครั้งต้องไม่ประมาท ต้องมีการตรวจสอบอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ให้พร้อม และเพียงพอต่อการทำงาน โดยเฉพาะในการเข้าระงับเหตุ คนคุ้มคลั่งทั้งที่เกิดจากการใช้ยาเสพติด และมีอาการทางจิต ต้องพึงใช้ความระมัดระวังสูงสุด เพื่อไม่ให้การสูญเสีย หรือได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ และสั่งการให้กำลังพลทุกนายเร่งรัดดำเนินการทั้งในด้านการป้องกัน การปราบปราม การสนับสนุนเรื่องการบำบัดรักษาการดำเนินการตามโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในทุกชุมชนที่เข้าร่วมในโครงการ และดูแลประชาชนในเขตนครบาลให้ปลอดภัยจากปัญหายาเสพติดในทุก ๆ มิติ

RELATED ARTICLES