คาดสรุปผลภายในเดือนนี้ สอบสวนวินัย “บิ๊กโจ๊ก” เตรียมเรียกสอบพยานเพิ่ม

พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสอบสวนวินับร้ายแรง กรณี พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รองรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวกรวม 5 คน กระทำผิดวินัยร้ายแรง โดยมี พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมคณะ

 

พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเรื่องนี้ จึงต้องมาร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้า เราเริ่มทำงานมาตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. ยังเหลือระยะเวลาในการรวบรวมตรวจสอบพยานหลักฐานและแจ้งข้อกล่าวหา ขณะนี้ทราบว่า มีการสอบปากคำพยานต่างๆไปจำนวนมาก ยืนยันว่า เราดำเนินการโดยยึดหลักระเบียบข้อกฎหมาย  และให้ความยุติธรรมทุกฝ่าย ซึ่งภารกิจครั้งนี้ เปรียบดังกรรมการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญที่มีคนไทยทั้งประเทศเฝ้ามองอยู่ ในฐานะกรรมการจึงต้องเป็นกลาง

พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานจากฝ่ายผู้กล่าวหา เบื้องต้นทราบว่าเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ต่อมาทางฝั่งผู้ถูกกล่าวหาได้ให้การเพิ่ม รวมถึงมีการอ้างถึงพยานบุคคลอีก 5-6 คน จึงต้องสอบเพิ่ม เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หลังจากนั้นจึงค่อยมาสรุป และ หารือพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งทิศทางจะเป็นบวกหรือลบตอนนี้ยังไม่ทราบ

เมื่อถามว่า ผลที่จะออกมามีทั้งบวกและลบ หากเป็นลบจะไปทางไหนได้บ้าง พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวว่า ลบก็หมายถึงว่าเราก็แจ้งข้อกล่าวหาไปว่าเขากระทำความผิดตามที่คณะกรรมการมีหน้าที่ หลังจากนั้นเป็นสิทธิ์ของเขาเองว่าจะไปร้องอะไรอย่างไรหรือไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า “ลบ” โทษจะถึงขั้นปลดออกหรือไล่ออกหรือไม่ พล.ต.อ.สราวุฒิ ตอบสั้นๆว่า ใช่ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่คณะกรรมการจะพิจารณา มี 2 ประเด็นนี้ ระยะเวลาในการตรวจสอบทั้งหมดมี 270 วัน ซึ่งหากภายในวันที่ 12 ก.ย. ยังไม่แล้วเสร็จ เรายังสามารถขยายเวลาออกไปได้อีก 60 วัน เพราะยังอยู่ในกรอบระยะเวลา 270 วัน ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมาผู้ถูกกล่าวหาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ส่วนกรณีที่ไม่เคยมาเข้าพบนั้นก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าตัว

พล.ต.อ.สราวุฒิ กล่าวอีกด้วยว่า ส่วนผลการตรวจสอบของคณะอื่นๆ จะออกมาทิศทางไหน ไม่ใด้กังวล หรือ กดดัน เพราะคนละหน้าที่กัน แต่ยอมรับว่าได้มีทำหนังสือไปสอบถามผลคณะตรวจสอบอื่นๆที่เกี่ยวข้องอยู่บ้าง ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายและเพื่อความรอบครอบ ส่วนเรื่องกระแสข่าวว่ามีการถอดถอนแล้วนั้นตนยังไม่ทราบ

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม  พล.ต.อ.สราวุฒิ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขอชื่นชมคณะกรรมการตรวจสอบชุดนี้ที่ยึดระเบียบข้อกฎหมาย ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตอนนี้ทราบว่าสอบปากคำพยานทั้งฝั่งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาไปทั้งหมดแล้ว 65 ปาก แสดงให้เห็นว่าดำเนินการด้วยความรอบครอบ

ส่วนกรณีที่ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา ยื่นเรื่องขอให้สอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มอีก 5 ปากนั้น ได้ทำหนังสือไปถึงพยานบุคคลดังกล่าวเพื่อมาให้การในวันที่ 21 ส.ค. ซึ่งหลังสอบปากคำเสร็จ ก็จะนัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปว่าผลจะออกมาเป็นบวกหรือเป็นลบ โดยคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนประเด็นการพิจารณา เราจะพิจารณาจากทุกประเด็น พิจารณาทุกอย่างหมด ขอให้สังคมสบายใจได้

ทั้งนี้เมื่อถามว่าหากฝั่งผู้ถูกกล่าวหายื่นเรื่องขอให้สอบพยานเพิ่มอีกนั้น จะเป็นการประวิงเวลาหรอไม่ พล.ต.อ.สราวุฒิ ตอบว่า เราให้โอกาสทุกฝ่าย หากมีการยื่นเรื่องขอให้สอบพยานเพิ่ม ก็ต้องมาดูว่าคำให้การของพยานบุคคลเหล่านี้จะเกิดประโยชน์สามารถหักล้างข้อเท็จจริงของอีกฝ่ายได้หรือไม่

RELATED ARTICLES