ส่งนักล่าลงสนาม

 

จบไปแล้วอีกโครงการ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ปิดหลักสูตรการฝึกภาคปฏิบัติ หลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115

ส่งเมล็ดพันธุ์นักสืบที่ตัวเองบ่มเพาะวิชาความรู้กลับไปปฏิบัติงานเพื่อประชาชน

มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ในฐานะรองผู้อำนวยการหลักสูตรเป็นประธานในพิธีปิด พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ ผู้กำกับการ(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล และครูพี่เลี้ยงสังกัด

มี พ.ต.อ.นิธิธรรม ศุนาลัย อาจารย์ (สบ 4) กลุ่มงานอาจารย์ กองบัญชาการศึกษา รวมถึงผู้เข้ารับการฝึกอบรม 40 นายร่วมพิธีปิดการฝึกภาคปฏิบัติที่ห้องประชุมอัจฉริยะ ชั้น 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล

ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มุ่งหวังที่จะสร้างเมล็ดพันธุ์นักสืบรุ่นใหม่ของตำรวจ

นำแนวคิดของการสืบสวนสมัยใหม่และสมัยเก่ารวมอยู่ด้วยกัน

พวกเขาเชื่อว่า สามารถผลิตนักสืบสายพันธุ์อาชีพที่พร้อมจะรับใช้ประชาชนในคดีต่างๆของตำรวจนครบาล รวมถึงคดีพิเศษที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลหวังว่า นักสืบที่ได้เข้าร่วมโครงการจะเป็นนักสืบชั้นยอดได้

“ ทัศนคติ สำคัญที่สุดจำไว้ คือ ความสามัคคี แล้วความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดที่สุด คือ เรารู้ว่าเราต้องทำเพื่อใคร”  

ไม่ใช่คิดทำเพื่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูล แต่ให้คิดเสมอไว้ว่า เราต้องทำเพื่อสังคม  

“วันนี้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้เราทั้งหมด เพื่อให้เราไปดูแลประชาชน และจำให้มั่น วันที่เรามาอบรมจนวันสุดท้าย การที่เป็นนักสืบที่ต้องอยู่ในหัวใจ คือ ความกตัญญู อย่าลืมอาจารย์ อย่าลืมครู” พล.ต.ต.ธีรเดชเน้นย้ำในงานเลี้ยงขอบคุณ

เนื่องจากเจ้าตัวถูกสอนมา อย่าได้อกตัญญูกับคนที่สอนวิชาเราโดยเด็ดขาด

“หลังจากจบงานเลี้ยง ก่อนกลับ ให้ไปขอบคุณ ไปไหว้ขอบคุณครูทุกคน มันเป็นสิ่งที่ผมถูกสอนมา เราจะไม่เจริญเลย ถ้าไม่มีความกตัญญูเป็นสิ่งเบื้องต้น”

งานเลี้ยงไม่มีเลิกรา นี่คือ จุดเริ่มต้นของทุกคน

พล.ต.ต.ธีรเดชบอกว่า การเข้ามาเป็นผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลเป้าหมายอันดับแรก คือ ปลูกเมล็ดพันธุ์นักสืบ เหมือนลูกศิษย์ทุกคนที่นั่งอยู่ข้างหน้า และอีกไม่น้อยที่ผ่านหลักสูตรสืบสวนในหลายรุ่น

ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลยืนยันผลงานของทีมสืบสวนนครบาลทำให้คนไทยพึงพอใจจากภาพที่ปรากฏผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์ แต่กลับกลายเป็นที่จับจ้องของสังคม เพราะทุกอย่างต้องมีเหตุผล

“เราเป็นนักสืบ เราต้องหาเหตุผลว่า เกิดอะไรขึ้นในสังคมไทย”

พล.ต.ต.ธีรเดชว่า ประชาชนไม่เคยเห็นการทำงานของตำรวจ ต้องยอมรับภาพตำรวจสืบนครบาลสมาร์ทดูดีทั้งทีม ไม่ใช่แค่คนเดียว

โดยเฉพาะการเปิดตัว “นักเรียนนักสืบหญิง” ออกจับกุมแจ้งหมายแก่ผู้ต้องหาอย่าง ร.ต.อ.หญิงพรอุษา จันทร์คง รองสารวัตร (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 และ ร.ต.อ.หญิงศิราณี บัวพันธ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร

ทั้งคู่อยู่อบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่น 115 เป็น “นักสืบสาวพันธุ์แกร่ง” ผลผลิตของตำรวจไทยยุคใหม่ เช่นเดียวกับ ร.ต.อ.หญิง นันทวรรณ ระหงษ์ รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจันทบุรี ร.ต.อ.หญิง ปนัสยา สามาอาพัฒน์ รองสารวัตรฝ่ายสนับสนุน กองบินตำรวจ  และ ร.ต.อ.หญิง วรนุช ไทรแก้ว รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกาญจนบุรี

“ขอเชิญน้องๆ ไม่ว่าหญิงหรือชาย มาร่วมเป็นนักสืบแบบพวกเรา” พล.ต.ต.ธีรเดชฝากประชาสัมพันธ์

ช่วยกันเพาะพันธุ์นักล่ากันอีก

 

RELATED ARTICLES