พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ฝากข่าวประชาสัมพันธ์เตือนระวัง มิจฉาชีพแสดงตัวเป็นตำรวจ
ด้วยเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 เวลา 17.55 น. ได้มีคนร้ายใช้เบอร์โทรศัพท์หมายเลข 061 241 6425 โทรเข้ามาที่ทำการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 หมายเลข 038 276 724 เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่สิบเวรรับสาย
ปลายสายแจ้งว่า เป็นตำรวจอยู่ภูธรภาค 3 ขอไอดีไลน์ กลุ่มของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 เจ้าหน้าที่สิบเวรตอบไปว่า ไม่มีไอดีไลน์ ปลายสายได้ให้สิบเวรแอดไลน์ส่วนตัว เพื่อให้สิบเวรดึงเข้ากลุ่มกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
สิบเวรได้แจ้งเรื่องให้ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ทราบและสั่งการให้สิบเวรไลน์ไปถามชื่อ ทว่าเจ้าของไลน์ไม่ตอบ ก่อนวิดีโอคอลไปหา เจ้าของไลน์ดังกล่าวไม่รับสาย
เชื่อว่าเป็นเบอร์ของมิจฉาชีพ
หลังจากนั้นได้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์พบเป็นเบอร์ของ นายกฤษณ์ หรือเอ็ม หรือวาริณ รอดบุญเกิด มีประวัติเคยโทรศัพท์ไปหลอกลวงเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วหลายแห่ง
แสดงตัวเป็นตำรวจระดับสูง เสนอช่วยเหลือผู้ต้องหาทางคดี หลอกลวงให้เหยื่อโอนเงินให้ มีผู้เสียหายเคยถูกหลอกลวงมาแล้วหลายราย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 หลอกเป็นตำรวจจะช่วยเหลือคดียาเสพติดจนญาติผู้ต้องหาหลงเชื่อโอนเงินให้ 100,000 บาท ที่สถานีตำรวจภูธรบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ถูกจับกุม แต่ประกันตัวออกมาก่อเหตุซ้ำอีก
จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนประสาน พ.ต.อ.วีรพันธ์ นาคสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเดชอุดม ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่บ้านของนายกฤษณ์ หรือเอ็ม หรือวาริณ รอดบุญเกิด จนได้ตัวพร้อมโทรศัพท์มือถือหมายเลข 061 241 6425 ที่ใช้โทรมาหลอกลวง
ผู้ต้องหาตัวแสบรับว่าโทรไปหลอกลวงจริง และได้เคยแอดไลน์เข้าไปในกลุ่มกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 มาก่อน
เบื้องต้นสถานีตำรวจภูธรเดชอุดมดำเนินคดีข้อเสพยาเสพติดให้โทษ และตรวจยึดโทรศัพท์ที่ใช้โทรหลอกลวงไว้ตรวจสอบ ข้างในโทรศัพท์มีภาพไลน์ และข้อความแชตในการหลอกลวงจำนวนมาก
ตรงตามพฤติการณ์ที่โทรเข้าห้องวิทยุโรงพักพูดคุยกับสิบเวรสวมรอย “รองผู้บังคับการ” ให้ญาติผู้ต้องหาโทรกลับ
บางทีสั่งให้สายตรวจไปตามญาติหลอกวิ่งเต้นช่วยเคลียร์คดี
ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ฝากประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย หากพบเจอเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบ
เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพโทรศัพท์มาก่อกวน หรือพยายามหลอกเอาข้อมูลของเจ้าหน้าที่ไปใช้ในการกระทำความผิดได้