พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย และ พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายอ้น ประเสริฐ อายุ 23 ปี และนายนิพนธ์ จานนอก อายุ 31 ปี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 80 กิโลกรัม, คีตามีน ชนิดผงสีขาว ประมาณ 38.14 กรัม, อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ยี้ห้อ Smith & Wesson รุ่น 5906 สีเงิน จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน จำนวน 1 ซอง, อาวุธปืนลูกซองยี่ห้อ Remington รุ่น 870 สีดำ จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 50 นัด, เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 2 นัด, เครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 3 นัด, เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 41 นัด, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง, รถยนต์ยี่ห้อ ISUZU รุ่น MU-X สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน จับกุมบริเวณพื้นที่ให้เช่าจอดรถภายในซอย รังสิต-ปทุมธานี 14 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อเนื่อง บริเวณริมถนนหน้าร้านเล็บ ซอยรังสิต-ปทุมธานี 12 ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อเนื่อง บ้านพัก ซอยรังสิต-ปทุมธานี 14 ซอย 9 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดย่านรังสิต ซึ่งได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อ ISUZU รุ่น MU-X สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร และได้จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ภายในซอย รังสิต-ปทุมธานี 14 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณระแวก ใกล้เคียง สถานที่ดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 17 ก.ย.2567 ช่วงเช้าตรู่ พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์ยี่ห้อ ISUZU รุ่น MU-X สีเทา คันดังกล่าวได้มาจอดบริเวณพื้นที่ให้เช่าจอดรถ ภายในซอย รังสิต-ปทุมธานี 14 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.วันเดียวกันพบชายใส่เสื้อแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้น เดินออกจากบ้านพัก มาขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว แล้วมาจอดบริเวณริมถนนหน้าบริเวณพื้นที่ให้เช่าจอดรถ ภายในซอย รังสิต-ปทุมธานี 14 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แล้วชายคนขับลงจากรถเดินมาเปิดรถยนต์ยี่ห้อ ISUZU รุ่น MU-X สีเทา (รถที่ซุกซ่อนยาเสพติด) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจค้น พบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 80 ถุง น้ำหนักรวม 80 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายใน ภายในห้องโดยสารรถยนต์ยี่ห้อ ISUZU รุ่น MU-X สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดได้เข้าทำการตรวจค้น บ้านพักภายใน ซอยรังสิต-ปทุมธานี 14 ซอย 9 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบ นายนิพนธ์ฯ (ผู้ต้องหาที่2) อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจค้น พบ อาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ในห้องพักภายในบ้าน
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่า ก่อนหน้าที่จะถูกจับ วันที่ 17 กันยายน 2567 ช่วงเช้าตรู่ได้ขับรถยนต์ IZUSU MU-X ไปรับยาไอซ์มาจากผู้ค้าแถวจังหวัดนนทบุรี จำนวน 100 กิโลกรัม ขับรถมาจอดไว้บริเวณลาดจอดรถใกล้บ้านและได้แบ่งยาไอซ์จำนวน 20 กิโลกรัมไปไว้ในรถโตโยต้ายาริส (รถยนต์ IZUSU MU-X ยังเหลือของกลางอีก 80 กิโลกรัม) ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 15.00 น. ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์โตโยต้ายาริส ซึ่งมียาเสพติด (ไอซ์) จำนวน 20 กิโลกรัม ออกไปส่งให้กับลูกค้าของผู้สั่งการ จากแอปพลิเคชันไลน์ ที่บริเวณจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อส่งยาเสพติดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ค่าจ้าง 100,000 บาท ซึ่งจะนำมาแบ่งกัน
ผู้สื่อข่าวรายงาด้วยว่า ขณะที่ควบคุมตัวไว้ที่ สน.พญาไท เนื่องจากสืบนครบาลไม่มีสถานที่ควบคุม ได้เกิดเหตุไม่คาดคิด เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองได้ออกอุบายกับสิบเวร สน.พญาไท โดยอาศัยจังหวะล็อกคอทำร้ายสิบเวรของ สน. จับขังคุกแทน ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้การจ๋อ จึงได้รีบสั่งการจัดกำลังไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด พร้อมกดดันอย่างหนักทุกวิถีทาง จนสุดท้ายผู้ต้องหาขอมอบตัวที่ สภ.สีดา จ.นครราชสีมา ช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.ย. 2567 ก่อนควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน บก.ปส.4 บช.ปส. เพื่อดำคดี ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป , มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ( คีตามีน ) ไว้ในครอบครองโดยกฎหมายและ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “หลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาต่อไป
ชมคลิป
