พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผู้บังคับการปราบปรามช่วยราชการกองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผู้กำกับการ2กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง3กองกำกับการ2กองบังคับการตำรวจทางหลวง แถลงผลจับกุม นายอมร หรือบ่าว ทองชูช่วย อายุ 51 ปี และนายวีระพงศ์ หรือบอล คงแก้ว อายุ 39 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 13,130,000 เม็ด ห่อเป็นมัดบรรจุอยู่ในตะกร้าพลาสติก จำนวน 65 ตะกร้าอยู่บนรถบรรทุกพ่วงเทรลเลอร์ 22 ล้อ ทะเบียน จ.สงขลา จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้กำชับให้ตำรวจทางหลวงกวดขันจับกุมขบวนการขนยาเสพติดโดยใช้ถนนหลวง หลังกลุ่มขบวนการดังกล่าวอาศัยช่วงที่กำลังเจ้าหน้าที่ระดมไปช่วยน้ำท่วมที่ภาคเหนือ กระทั่งวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมาขณะตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ได้ตั้งด่านบนท้องถนน บริเวณ ถ.เพชรเกษม ขาล่องใต้ กม.378 อ.บางสะพานพบรถบรรทุกพ่วงเทรลเลอร์ ทะเบียน จ.สงขลา ด้านหลังบรรทุกลังพลาสติก ลักษณะวางเรียงเป็นแนวยาวตามตัวรถคลุมผ้าใบสีดำ ขับขี่เข้ามาในด่าน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ารถพ่วงคันดังกล่าวไม่มีบังโคลนและยังติดตั้งแตรลม ซึ่งความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งฯ
พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงเรียกให้หยุดและขอตรวจสอบใบขับขี่จากผู้ขับขี่ ทราบชื่อภายหลังคือ นายอมร โดยเจ้าตัวมีอาการพิรุธเหงื่อแตก มือสั่น เสียงสั่น เจ้าหน้าที่ จึงได้เรียกให้ นายอมร ลงมาจากรถ เพื่อขอตรวจสอบเมื่อเปิดผ้าใบคลุมรถก็พบยาบ้าห่อเป็นมัดวางในตระกร้าพลาสติก สำหรับใส่ผักผลไม้ จึงควบคุมตัว นายอมร ไว้ทันที แต่ระหว่างนั้น นายวีระพงศ์ ซึ่งแอบอยู่ในรถได้เปิดประตูวิ่งหนี เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งติดตามจับตัวได้ดังกล่าว
สอบสวนทั้งคู่ ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนยาเสพติดล็อตดังกล่าว มาจากพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม จากนั้นก็จะมีคนมาคอยรับต่อไปอีกช่วงหนึ่ง โดยจะได้รับจ้างเที่ยวละ 200,000 บาท ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่รับจ้างขนยาเสพติดล็อตใหญ่ลักษณะนี้
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ,ขับรถในขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ” จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีพร้อมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต.ค.66 – ส.ค.67 ตำรวจทางหลวงสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดไปแล้ว 1,569 คน ยึดยาเสพติดของกลาง เป็นยาบ้า 119,266,779 เม็ด, เคตามีน 568 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 471 กิโลกรัม และ เฮโรอีนอีก 127 กิโลกรัม
คลิปข่าว