หลายคนมั่นใจว่า “นายหญิง” ยังรู้จัก “ยุทธจักรสีกากี” ไม่ดีพอ
แม้เกิดในครอบครัวตำรวจ ได้รับการถ่ายทอด “ดีเอ็นเอ” มาจาก “ทักษิณ ชินวัตร” นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 26 ผู้พ่อ
สายเลือดตำนานมือปราบโดยตรงจาก พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ ผู้เป็นตา และเป็นหลานสาว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้มีศักดิ์เป็นลุง
วันนี้ต้องมาทำหน้าที่หยิบรายชื่อเสนอ “แม่ทัพปทุมวันคนใหม่” ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ
ได้รับอำนาจสิทธิขาด แต่ปราศจากแรงกดดันนอกรั้วได้จริงหรือ
เมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องรับ การบ้านชิ้นสำคัญ แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับตำรวจน้อยใหญ่จะมีสักกี่คนที่คุ้นเคย
ใกล้ตัวสุดทุกวันนี้น่าจะเป็น พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย รองผู้บังคับการตำรวจสันติบาล ที่แทบจะกลายเป็น “หัวหน้าบอดี้การ์ด” ของตระกูลไปแล้ว
ตัวเลือกในกำมือของ “นายกฯอิ๊งค์” เหลือเพียง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 41 เกษียณอายุราชการปี 2569 พร้อมกับ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 และพล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 39 เกษียณอายุราชการปี 2568
หลักเกณฑ์การพิจารณาแต่งตั้งตามบริบทกฎหมายตำรวจแห่งชาติฉบับปฏิรูปใหม่ให้คำนึงถึง อาวุโส ความรู้ ความสามารถ
มีเจตนารมณ์ให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อิสระ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด มีมาตราการป้องกันมิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำโดยมิชอบ กำหนดกระบวนการแต่งตั้งให้ชัดเจน
มี คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรมข้าราชการตำรวจวินิจฉัยอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ เป็นที่พึ่งของตำรวจ
หากการแต่งตั้งไม่เป็นไปตามกฎหมาย ผู้บังคับบัญชาอาจจะต้องรับโทษทั้งทางวินัยและโทษอาญาด้วย
กระนั้นก็ตาม อำนาจในกำมือของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่อาจมี “เงาดำ” ของใครบางคนชักใยอยู่เบื้องหลังจะผ่านทางสะดวกในการประชุมพิจารณาแต่งตั้ง “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่” ในวันที่ 7 ตุลาคม 2567 แบบฉลุยหรือไม่
ประเดิมเหยียบสำนักปทุมวันตรวจแถวกองทัพตำรวจ
พิสูจน์บทบาทผู้นำหญิงตัวจริง